นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จะจุดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสูงในสหรัฐขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่มีการคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในระดับสูงดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำในญี่ปุ่น และไม่น่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจนแตะระดับสูงสุดระหว่างวัน ก่อนจะปิดที่ 79.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ บวกกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ และมีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าตามที่เคยคาดการณ์ไว้
ศูนย์ข้อมูลน้ำมันของญี่ปุ่นรายงานว่า แม้มูลค่าการผลิตน้ำมันดิบจะสูงขึ้น แต่ราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินทั่วประเทศญี่ปุ่นกลับลดลง 0.6 เยนต่อลิตร เหลือ 144.0 เยนต่อลิตรจากการประเมินเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นสถิติที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว
"เห็นได้ชัดว่าผู้ผลิตน้ำมันในญี่ปุ่นยังคงดิ้นรนให้หลุดพ้นจากภาวะมูลค่าน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อกระตุ้นราคาค้าปลีก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาผู้บริโภคดีขึ้นตามไปด้วย" อาคิโอะ โยชิโนะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Societe Generale Asset Management กล่าว "ดังนั้นการขึ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะสามารถกระตุ้นราคาผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--