สตีฟ ฟอร์บส อภิมหาเศรษฐีเจ้าของนิตยสาร "ฟอร์บส์" เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 1 ในการประชุมวันที่ 18 กันยายนนี้ เพื่อแก้ไขวิกฤติสินเชื่อที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธนาคารกลางควรมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งก็คือสภาพคล่องในเศรษฐกิจที่ล้นเกินไป โดยเขาแนะนำให้ เฟด ลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 5.25 ลงร้อยละ 1 รวมทั้งแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า ขณะที่ เฟด กำลังแก้ไขวิกฤตการณ์ระยะสั้นนั้น ภายในปีหน้า เฟดจะเริ่มแก้ไขปัญหาสภาพคล่องล้นทะลักด้วยเช่นกัน
"การลดสภาพคล่องที่สูงเกินไป ด้วยการขายพันธบัตรจากพอร์ตการลงทุน และถอนเงินทุนจากตลาด ซึ่งเป็นมาตรการที่กระชับรัดกุมเป็นสิ่งที่ เฟด ยังไม่ได้ทำ" ฟอร์บส กล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวสิงคโปร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เฟด ไม่ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่แรงกดดันให้มีการลดดอกเบี้ยทวีเพิ่มขึ้น เพื่อคลายวิกฤติสินเชื่อ โดยการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านที่มีศักยภาพ ไปจนถึงบริษัทที่ทำกิจกรรมการเงินและการซื้อขาย
ฟอร์บส ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของบริษัท ฟอร์บส อิงค์ และบรรณาธิการบริหารฟอร์บส แม็กกาซีน คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากวิกฤตการณ์สินเชื่อ แต่ยังเชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ฟอร์บส เตือนถึง กระแสลัทธิกีดกันทางการค้าที่โหมแรงขึ้นในสหรัฐ โดยเฉพาะในพรรคเดโมแครต รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ
"แม้กระทั่งในเศรษฐกิจโลก มีความกดดันรุนแรงมากจากลัทธิกีดกันทางการค้า เราเห็นเรื่องนี้ได้ในยุโรป และทุกๆที่ ทั้งในพรรคเดโมแครตเอง ลัทธิกีดกันทางการค้าเป็นเรื่องที่ดุเดือดมาก" ฟอร์บส กล่าวทิ้งท้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--