นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและรองรับสถานการณ์และความเสี่ยง พร้อมลดการขาดดุล และยังคงเป้าหมายระยะยาวที่จะจัดทำงบประมาณให้สมดุล
สำหรับแผนคลังระยะปานกลาง ปี 65-68 ได้ประมาณการเศรษฐกิจ โดยคาดว่าในปี 65 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 3-4% ประมาณการรายได้รัฐบาล 2.4 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะคงค้าง 57.6% ต่อจีดีพี
ปี 66 GDP จะขยายตัวในช่วง 2.7-3.7% ประมาณการรายได้รัฐบาล 2.49 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะคงค้าง 58.6% ต่อจีดีพี
ปี 67 GDP ขยายตัว 2.9-3.9% ประมาณการรายได้รัฐบาล 2.619 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะคงค้าง 59.0% ต่อจีดีพี
ปี 68 GDP ขยายตัว 3.2-4.2% ประมาณการรายได้รัฐบาล 2.75 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะคงค้าง 58.7% ต่อจีดีพี
โดยมีสมมติฐานที่สำคัญในเรื่องนโยบายภาษีที่เกี่ยวข้อง คือ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-service) รายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ประกอบกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งผลจาการปรับเปลี่ยนระบบสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมจากระบบสัญญาเป็นแบบแบ่งปันผลผลิต นายอนุชา กล่าวว่า ในเรื่องเป้าหมายและนโยบายการคลังในส่วนระยะสั้น-ปานกลาง คือการเพิ่มศักยภาพทางการคลังทั้งในส่วนรายได้ รายจ่าย หนี้สาธารณะ ให้สามารถรองรับสถานการณ์ พร้อมรับควาเมสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ขณะที่เป้าหมายระยะยาวยังกำหนดให้มีการปรับลดขนาดการขาดดุล มุ่งสู่การจัดทำงบประมาณสมดุลในที่สุด