นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.19/24 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.19/20 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.15-30.25 บาท/ดอลลาร์ ส่วนผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กน ง.) ที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% แต่ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 63 เป็น -6.6% ซึ่งดีขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ -7.8% นั้น ได้ทำให้เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ในช่วงท้ายตลาด บาทก็กลับไปปิดใกล้เคียงกับที่เปิดตลาดในช่วงเช้า
"บาทแข็งค่าขึ้นมาบ้าง ช่วงรู้ผลประชุม กนง.ที่มีการปรับ GDP ปีนี้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่มองว่าแม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ ยังมีความเสี่ยง ซึ่งทำให้ในช่วงท้ายตลาด เงินบาทก็กลับไปอยู่ในระดับเดิม" นักบริหารเงินระบุ
นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในอังกฤษจากกรณีไวรัสกลายพันธุ์ จึงทำให้นักลงทุนเข้าไปถือครองดอลลาร์สหรัฐที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จึงทำให้ช่วงนี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15 - 30.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.23/65 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.54/57 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2080/2290 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2172/2175 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,416.02 จุด ลดลง 8.37 จุด (-0.59%) มูลค่าการซื้อขาย 89,556 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 679.13 ลบ.(SET+MAI)
- รัฐบาลกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ที่ 3.1 ล้านล้านบาท ลดลง 1.89 แสนล้านบาท จากปี
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัว
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 63 ดีขึ้นเป็นหด
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน พ.ย.63 โดยการส่งออกไทยมีมูลค่า 18,932.66
- สภารัฐกิจของจีน ประกาศขยายมาตรการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจจีนยัง
- รายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประจำเดือนต.ค.63 ระบุว่า คณะกรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับ
แนวทางในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ขณะที่กรรมการรายหนึ่งได้เรียกร้องให้ BOJ ปรับ
โครงการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก