น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้หารือกับคณะที่ปรึกษา โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ร่วมประชุมด้วย
ประเด็นการหารือ เกี่ยวข้องกับแนวทางการบริหารเศรษฐกิจในช่วงหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ครอบคลุมในหลายมิติ ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง, น้ำหมุนเวียนในระดับชุมชน, การรักษาระดับการจ้างงาน, การวิเคราะห์การฟื้นตัวของสาขาอุตสาหกรรม, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล, การเร่งรัดมาตรการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทาง, การพิจารณาทบทวนหลักการของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และจากการได้รับฟังข้อมูลจากภาคเอกชนและภาคประชาชนซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ทำให้เห็นพื้นที่ของการทำงานภาครัฐให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังโควิด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ตั้งเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้อยู่แนวหน้าของอาเซียน เพราะปัจจุบันไทยมีความพร้อมขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้ารายย่อย หาบเร่ แผงลอย มากกว่า 8 แสนร้านค้าได้เข้าสู่ระบบการโอนเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์หลังจากร่วมโครงการคนละครึ่ง ส่วนการดำเนินการในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รัฐบาลก็พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่