นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวว่า มั่นใจเศรษฐกิจไทยในปี 64 ขยายตัวสูงกว่า 4% ตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 หากมีความคืบหน้าเร็วจะทำให้คนทั่วโลกสามารถกลับมาเดินทางท่องเที่ยวไปได้เหมือนเดิม
"แนวโน้มน่าจะดีกว่าคาด เดี๋ยวมีวัคซีนแล้วคนก็เดินทางได้ ต่างชาติที่เข้ามาก็ถือหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนมายืนยัน...ครึ่งปีแรกแค่ประคับประคองไว้ ครึ่งปีหลังฟื้นแน่นอน" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ไม่น่ากังวล เพราะรัฐบาลใช้เวลาเพียง 10 วันก็สามารถควบคุมได้ ขณะที่ในหลายประเทศยังอยู่ในภาวะวิกฤตมีคนติดเชื้อแต่ละวันนับหมื่นราย ซึ่งต่างชาติคงจับตาดูสถานการณ์ของเราเช่นกัน หากเราสามารถควบคุมได้ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ
นอกจากนี้ ไม่กังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เพราะเห็นว่าสังคมไทยมีการปรับตัว ทุกคนให้ความร่วมมือกันมากกว่าช่วงที่เกิดการระบาดรอบแรก ทำให้สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้อย่างรวดเร็ว สถานการณ์ครั้งนี้ดีกว่าเมื่อเดือนเมษาฯ กลุ่มเสี่ยงออกมาแสดงตัวส่งข่าวถึงกันให้รู้ สถานประกอบการก็เปิดเผยตัว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
"ที่พูดกันว่าวิกฤตโควิดรอบนี้จะกระทบเศรษฐกิจ 4.5-6 หมื่นล้านบาท แต่หากเทียบกับจีดีพีทั้งประเทศ 12 ล้านล้านบาท ถือว่าไม่มาก เพราะคุมได้เร็ว สถานการณ์แบบนี้เคยเกิดที่สิงคโปร์แต่ใช้เวลาหลายเดือน" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
การลงทุนในปี 64 คงจะสานต่ออุตสาหกรรมเดิมที่รัฐบาลได้ให้การส่งเสริมไว้ แต่ในปี 65 คงต้องหาอุตสาหกรรมสาขาใหม่ ๆ เช่น อุตสาหกรรมเวลเนส อุตสาหกรรมดิจิทัล
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ประกอบการสายการบินเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องสินเชื่อนั้น นายสุพัฒน์พงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเรื่องต้นทุนราคาน้ำมันด้วยการปรับลดภาษีสรรพสามิตให้แล้ว แต่หากต้องการสินเชื่อไปจ่ายเงินกู้และดอกเบี้ยก็ควรไปเจรจากับธนาคารเจ้าหนี้ เพราะที่ผ่านมาธุรกิจการบินก็สร้างกำไรต่อเนื่อง แต่ช่วงนี้ประสบวิกฤตโควิด-19 ถ้ารัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เท่ากับไปช่วยเหลือธนาคารเจ้าหนี้