นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการในร่าง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ และ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้เกิดความคล่องตัว ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่ทางราชการรวมทั้งข้าราชการและผู้รับบำนาญมากกว่า 2 ล้านคน
สำหรับร่าง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ มีสาระสำคัญ คือ แก้ไขให้การพ้นจากราชการของผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หากมีกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่างๆ บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นก็ให้เป็นไปตามนั้น, แก้ไขให้คณะกรรมการบริหารงานบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการแต่ละประเภท เป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมเกษียณอายุของข้าราชการประเภทนั้นๆ ยกเว้นข้าราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมให้กระทรวงกลาโหมเป็นเจ้าหน้าที่
แก้ไขให้ก่อนสิ้นปีงบประมาณทุกปีไม่น้อยกว่า 60 วัน ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเกษียณอายุของข้าราชการ ยื่นบัญชีรายชื่อข้าราชการผู้มีสิทธิจะได้รับบำเหน็จบำนาญ เนื่องจากการเกษียณอายุในปีงบประมาณถัดไปต่อเจ้ากระทรวงของผู้นั้นและต่อกระทรวงการคลัง
แก้ไขให้การต่อเวลาราชการ 1 ปีคราวแรก ให้นับตั้งแต่วันครบเกษียณอายุตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทนั้นๆ และถ้าจะต่อเวลาราชการให้ในคราวถัดไปอีกก็ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทนั้นๆ ถ้ามิได้มีการสั่งต่อเวลาราชการให้ถือว่าพ้นจากราชการถัดจากวันครบการต่อเวลาราชการครั้งสุดท้าย รวมทั้งยกเลิกการหมดสิทธิรับบำนาญปกติหรือบำนาญตกทอด
ส่วนร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ได้บัญญัติเพิ่มเติมให้ข้าราชการที่ได้รับบำนาญ, เงินประเดิม, เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนเงินดังกล่าวไปแล้ว หากประสงค์จะนับเวลาราชการต่อเนื่องต้องคืนเงินประเดิม, เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนเงินดังกล่าว หากไม่คืนให้ถือว่าประสงค์ไม่นับเวลาราชการต่อเนื่อง
บัญญัติเพิ่มเติมให้ข้าราชการซึ่งกลับเข้ารับราชการใหม่ อาจมีสิทธิได้รับเงินชดเชย, บัญญัติให้ข้าราชการซึ่งกลับเข้ารับราชการใหม่จะคืนเงินสะสม, เงินสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนเงินดังกล่าวที่ได้รับไปแล้วแก่กองทุน เพื่อให้กองทุนนำไปลงทุนหาผลประโยชน์ต่อไปก็ได้ รวมทั้งยกเลิกการหมดสิทธิรับบำนาญ
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--