นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมจะผลักดันโครงการลงทุนในปี 64 มูลค่ารวมกว่า 160,000 ล้านบาทให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัด หน่วยงานเจ้าของโครงการ และ สคร.ทำหน้าที่เร่งรัดโครงการที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน (High Priority PPP Project) ภายใต้แผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2563-2570 ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลา และแล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งนอกจากโครงการคมนาคมในด้านต่างๆ ทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำแล้ว ยังรวมไปถึงโครงการในด้านสาธารณสุขด้วย เพื่อกระตุ้นการลงทุนของประเทศในภาพรวม และให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ตลอดจนช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุนในการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะต่างๆ ของรัฐ
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 จะมีเม็ดเงินจากโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) กว่า 3.73 แสนล้านบาท ที่จะทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยมีหลายโครงการที่มีความคืบหน้าอย่างมาก อาทิ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา, และสายบางใหญ่กาญจนบุรี, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลงทุนอื่น ๆ อาทิ ท่าเรือ, ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้านครพนม และเชียงของ เป็นต้น ซึ่งหลายโครงการมีความคืบหน้าอย่างมาก ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป
"การก่อสร้างในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุด แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกับเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยการก่อสร้าง จะเป็นไปภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลยอย่างเคร่งครัด" นายอาคม กล่าว