สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนส.ค.สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตภาคการเกษตรที่อาจจะมีปริมาณไม่เพียงพอ รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ทะยานขึ้นนั้นชี้ให้เห็นว่า มาตรการคุมเข้มของรัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมได้
รัฐบาลจีนได้ประกาศในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อในเดือนส.ค.2550 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี นับเป็นสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 11 ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาอาหารที่สูงขึ้น
"ราคาอาหารที่สูงขึ้นไม่ได้เป็นเพียงผลพวงจากผลผลิตภาคการเกษตรที่ชะตัวลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบจากความต้องการจากภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางจีนต้องออกมาตรการคุมเค้มการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยจีนได้ปรับขึ้นเพดานสำรองธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% สู่ระดับ 12.5% เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา" รายงานระบุ
มูดี้ส์กล่าวว่า อัตราการปล่อยกู้ในประเทศซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมาสู่ระดับ 7.02% นั้น สะท้อนให้เห็นว่าครัวเรือนและรัฐบาลจำเป็นต้องปรับลดค่าใช้จ่ายและบรรเทาแรงกดดันด้านราคาสินค้าลงอีก สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--