นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานน้ำตาลหลายแห่งกำลังประสบปัญหาชาวไร่อ้อยบางรายตัดอ้อยยอดติดกากใบเข้าหีบ เพื่อหวังเพิ่มน้ำหนักโดยใช้ห่วงโอกาสที่ทุกฝ่ายต่างร่วมรณรงค์ตัดอ้อยสดเพื่อลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ให้เป็นไปตามนโยบายภาครัฐ ดังนั้น โรงงานจึงขอความร่วมมือชาวไร่เลิกตัดอ้อยติดกากใบเข้าสู่กระบวนการหีบ เนื่องจากก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงในลักษณะเดียวกับการหีบอ้อยไฟไหม้ โดยกากใบถือเป็นสิ่งปนเปื้อนที่ทำให้ยิดล์น้ำตาลต่อตันอ้อยและค่าความหวานในอ้อยลดลง และส่งผลเสียหายต่อระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลโดยรวม
"ที่ผ่านมา ชาวไร่อ้อยให้ความร่วมมือกับฝ่ายโรงงานจัดส่งอ้อยสดมีคุณภาพเข้าหีบ แต่ก็มีชาวไร่บางรายเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนตนอาศัยจังหวะที่ทุกฝ่ายรณรงค์ลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ แต่กลับตัดอ้อยสดติดกากใบส่งมอบให้โรงงานแทน แม้ว่าอ้อยประเภทนี้จะไม่จัดเป็นอ้อยไฟไหม้แต่กากใบถือเป็นสิ่งปนเปื้อนที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตน้ำตาลของอุตสาหกรรมโดยรวม การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน ทำให้รายได้ของระบบลดลง กระทบต่อชาวไร่ที่ส่งอ้อยสดสะอาด ต้องได้รับค่าอ้อยลดลงตามไปด้วย" นายสิริวุทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ โรงงานน้ำตาลได้ทำหนังสือเพื่อชี้แจงให้แก่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้รับทราบประเด็นปัญหาดังกล่าวแล้ว และเตรียมหารือในการออกมาตรการกำกับดูแลปัญหาชาวไร่ส่งมอบอ้อยมีกากใบให้แก่โรงงาน หากชาวไร่ยังไม่ให้ความร่วมมือ ทางโรงงานน้ำตาลมีความจำเป็นต้องหยุดรับอ้อยในลักษณะดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการหีบ เนื่องจากต้องรักษาผลประโยชน์ให้แก่ชาวไร่ที่จัดส่งอ้อยสดที่มีคุณภาพให้แก่โรงงาน
นายสิริวุทธิ์ กล่าวถึงการเปิดรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปี 2563/64 ของโรงงานน้ำตาลทั้ง 57 โรงระยะเวลา 27 วัน พบว่า มีปริมาณอ้อยสด 9.55 ล้านตัน หรือคิดเป็น 79.82% จากปริมาณผลผลิตเข้าหีบทั้งหมด 11.96 ล้านตัน โดยมีอ้อยไฟไหม้เข้าหีบ 2.41 ล้านตันเท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหีบอ้อยได้ 21.99 ล้านตัน มีอ้อยไฟไหม้เข้าหีบสูง ถึง 10.24 ล้านตัน หรือ 46.58% ของอ้อยเข้าหีบทั้งหมด