นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ของ สปป.ลาว ต่อกรณีที่ลาวออกประกาศห้ามการนำเข้าอาหารทะเล (สดและแช่แข็ง) ชั่วคราว ที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ฝ่ายไทย ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ และหน่ายงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เน้นย้ำยืนยันและรับรองความปลอดภัยของอาหารทะเลสดและแช่แข็งของไทย รวมถึงได้ชี้แจงถึงมาตรการกำกับดูแลของฝ่ายไทยที่มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด
ด้านนายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมงของไทย ได้ชี้แจงมาตรการสำคัญของฝ่ายไทยให้รัฐบาลลาว เกิดความเชื่อมั่นว่าตลอดกระบวนการผลิตอาหารทะเลทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ขั้นตอนการจับสัตว์น้ำ โดยผู้จับสัตว์น้ำต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุข และสุขอนามัยเรือ กระบวนการผลิต ไปถึงการขนส่งออกจากด่านที่มีการฉีดพ่นน้ำยาที่รถขนส่งทุกครั้งก่อนออกจากด่าน และการมีใบรับรองต่างๆ
ซึ่งล่าสุด กรมประมงได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมเฉพาะกิจในการป้องกันการปนเปื้อนไวรัสโควิด-19 ในสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เพื่อส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะรับรองการปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด สำหรับผู้ประกอบการทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการตลาด Modern Trade 2. ผู้ประกอบการแพปลา สะพานปลา 3. ผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ และ 4. ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์
นอกจากนี้ สำหรับผู้ส่งออกอาหารของไทย จะมีใบรับรองผ่านการประเมินมาตรการปฏิบัติที่ดีตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ตามที่กรมประมงและสาธารณสุขกำหนดร่วมกัน ซึ่งเป็นการยืนยันและรับประกันถึงคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับสินค้าอาหารส่งออกจากไทย ขณะเดียวกัน ผู้แทนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขของไทย ยังได้ยืนยันว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่พบการติดต่อไวรัสโควิด-19 จากผลิตภัณฑ์อาหารหรือบรรจุภัณฑ์แต่อย่างใด ซึ่งเป็นข้อกังวลหลักของฝ่ายลาว
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้น สปป.ลาว ยินดีที่ได้รับทราบข้อมูลจากฝ่ายไทย และเห็นชอบร่วมกันให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมสองฝ่ายเพื่อหารือในเชิงลึกถึงรายละเอียด ตลอดจนแนวทางความเป็นไปได้ในการกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับการส่งออกสินค้าดังกล่าวระหว่างกันเป็นเฉพาะ โดยอาจจัดทำในลักษณะความร่วมมือทวิภาคี เพื่อควบคุมดูแลให้เกิดความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางคือผู้บริโภค โดยมีกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักฝ่ายไทย และกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักฝ่ายลาว ก่อนจะสรุปนำเสนอให้คณะทำงานเฉพาะกิจฯ ของลาว พิจารณาปรับแก้หรือยกเลิกประกาศห้ามนำเข้าดังกล่าวต่อไป