ผู้บริโภคชาวสหรัฐอาจต้องจ่ายเงินซื้อของเล่นที่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นในอนาคต หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลคริสต์มาสในปลายปีนี้ ซึ่งการที่ราคาของเล่นยังไม่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนั้น เป็นเพราะผู้ประกอบการและบรรดาร้านขายของเล่นได้สั่งซื้อสินค้ามาเตรียมจำหน่ายไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผู้ซื้อสินค้าอาจต้องจ่ายเงินซื้อของเล่นเพิ่มขึ้น 10% ในปีหน้า หลังจากที่ผู้ผลิตของเล่นและร้านค้าต่างๆเพิ่มความระมัดระวังด้านความปลอดภัยในสินค้ามากขึ้น หลังจากที่มีการเรียกคืนของเล่นที่มีสารตะกั่วปนเปื้อนกว่า 3 ล้านชิ้นที่ผลิตในประเทศจีนตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งหมายความว่า ราคาตุ๊กตาบาร์บี้ที่วางขายในปัจจุบันที่ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 7.70 ดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาของเล่นที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยที่ 10% นี้นับเป็นการปรับขึ้นราคาของเล่นครั้งสูงสุดในรอบหลายปี และเป็นการปรับขึ้นราคาสินค้ามากกว่า 2 ครั้งในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ระดับ 4.7% ในช่วง 7 เดือนของปีนี้
โดยราคาสินค้าที่พุ่งขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการตรวจสอบคุณภาพสินค้าจากผู้ผลิตและผู้ค้าในสหรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกำจัดสินค้าที่มีความเสี่ยงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
นักวิเคราะห์หกล่าวว่า การเรียกคืนของเล่นที่มีสารตะกั่วปนเปื้อนของบริษัทแมทเทล ซึ่งบริษัทผู้ผลิตของเล่นชื่อดังของโลกทั้งสามครั้งซึ่งเริ่มมีขึ้นตั้งแต่เดือนส.ค.นั้น ทำให้หลายฝ่ายตรวจสอบคุณภาพของเล่นกันอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้บรรดาห้างร้านหลายแห่งต้องเก็บของเล่นลงจากชั้นวางจำหน่าย และส่งของเล่นเหล่านั้นไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการตรวสอบ ซึ่งทำให้บริษัทหลายแห่งต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน การทำงานล่วงเวลา และค่าดำเนินการตรวจสอบเพิ่มมากขึ้น
ด้านคริสต์ เบิร์น ที่ปรึกษาของบริษัทแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กกล่าวว่า ผู้ซื้อสามารถคาดเดาราคาสินค้าที่ร้านค้าต่างๆพากันงัดกลยุทธ์ห้ำหั่นราคาเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยเฉพาะร้านค้าปลีกชื่อดังอย่างวอลมาร์ท
อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อชาวสหรัฐบางกลุ่มออกมาแสดงความคิดเห็นว่า พวกเขาจะยังไม่ซื้อของเล่นจนกว่าจะมั่นใจได้ว่า สินค้าดังกล่าวมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--