มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสมองว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของญี่ปุ่นมีเสถียรภาพ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการที่มั่นคง แต่ก็ยังคงมีความท้าทายที่สำคัญๆอย่างชัดเจน เนื่องจากสภาพการแข่งขันที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของช่องทางการขายที่หลากหลาย
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า บริษัทเครื่องสำอางทั้งหมดจำเป็นต้องยกระดับแบรนด์ของตนเองและบริหารช่องทางการจำหน่าย เพื่อรักษาจุดยืนในตลาดและความสามารถในการทำกำไรของตนเอง
โนริโกะ โคซากะ นักวิเคราะห์และผู้เขียนรายงานเรื่องนี้ของมูดีส์ กล่าวว่า การบริหารช่องทางการขายผ่านทางร้านขายยากำลังมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น ขณะที่การใช้งบโฆษณาและส่งเสริมการขายก็ถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ในขณะเดียวกัน หลักการที่มีอยู่เดิม ทั้งการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของผู้ถือพันธบัตรและผู้ถือหุ้นกับยุทธศาสตร์การขยายตัว จะสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งในปีหน้า
ตลาดเครื่องสำอางของญี่ปุ่นเป็นตลาดที่อิ่มตัวแล้ว โดยมีมูลค่าการขนส่งเครื่องสำอางประมาณ 1.5 ล้านล้านเยนทั้งในปี 2548 และ 2549
โคซูกะกล่าวด้วยว่า เมื่อสถานการณ์ในตลาดญี่ปุ่นเป็นเช่นนี้แล้ว การใช้ยุทธศาสตร์ในตลาดต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จจึงยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันธุรกิจให้ขยายตัว ซึ่งดูจากตัวอย่างได้จากกรณีของชิเซโด้ที่ขยายธุรกิจในจีนอย่างแข็งแกร่งผ่านทางห้างสรรพสินค้า และร้านขายเครื่องสำอางโดยเฉพาะ รวมทั้งการเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางที่แตกต่างกันในแต่ละช่องทางการขาย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--