นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า ผลตอบแทนการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ในปี 63 สามารถทำผลตอบแทนให้กองทุนส่วนสมาชิกสูงถึง 4.79% และ 4.93% สำหรับแผนหลัก ซึ่งสมาชิกกว่า 90% อยู่ในแผนนี้
"ส่วนตัวผมมั่นใจใน กบข. อยู่แล้ว ผมเป็นสมาชิกตั้งแต่ทำงานอยู่สภาพัฒน์ฯ เกษียณแล้วผมก็ยังใช้บริการออมต่อกับ กบข. ยอดเงินของผมใน กบข. ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ส่งเงินสะสมเพิ่มเพราะเกษียณแล้ว ในส่วนการกำกับดูแล ผมมั่นใจในคณะกรรมการ กบข. ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ ผมเชื่อว่าทุกท่านดูแล กบข. อย่างมืออาชีพ"นายอาคม กล่าว
ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานของ กบข. ในปี 63 ชนะทุกกลุ่มตัวชี้วัดที่คณะกรรมการกำหนด ไม่ว่าจะเป็นตัวชี้วัดด้านสมาชิก ด้านองค์กร และที่สำคัญที่สุดคือด้านการลงทุน ขณะที่กระทรวงการคลังให้การสนับสนุนการบริหารกองทุน กบข.ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสกระจายการลงทุนให้ กบข.
"อยากให้สมาชิก กบข.ใช้บริการออมเพิ่มและเลือกแผนลงทุนกับ กบข.ตามหลักการลงทุนที่ดี อายุน้อยก็อาจจะเลือกแผนที่มีความเสี่ยงได้มากกว่าคนที่อายุมาก เพราะอีกหลายปีกว่าจะเกษียณ สามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่า แต่ที่สำคัญคือควรออมเพิ่มด้วย เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์ทวีค่าเงินออมแล้วยังลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ผมเองออมเพิ่มเต็มอัตรากับ กบข.มานานแล้ว" นายกฤษฎา กล่าว
นางสาวศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กบข.เปิดเผยว่า ปี 63 เป็นปีที่ท้าทาย กบข. เป็นอย่างมาก วิกฤติโควิด-19 ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง หน่วยงานภาครัฐและธนาคารกลางเกือบทุกประเทศออกมาตรการการคลังและการเงินเพื่อเยียวยาและลดผลกระทบ ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องล้นระบบ ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่โลกลงทุนไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เพื่อให้การตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำ นำข้อมูลจากทุกมิติมาประกอบการตัดสินใจ กบข. จึงพัฒนา 8 โมเดลลงทุนนำมาใช้งานร่วมกับประสบการณ์ของทีมลงทุน ทำให้เกิดความมั่นใจในการทำ Tactical ด้านการลงทุนในหลายจังหวะที่มีโอกาส ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในปีที่ผ่านมาคือการย้ำให้เห็นว่าการบริหารการลงทุนของ กบข. ดำเนินมาอย่างมีประสิทธิภาพ