นายเควิน วาร์ช หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อาจไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) จะแพร่กระจายไปสู่ตลาดอื่นๆ ในทางกลับกันความผันผวนในตลาดกลับสะท้อนให้เห็นว่าภาวะตกต่ำของตลาดซับไพรม์กำลังกระตุ้นให้นักลงทุนในตลาดหันมาให้ความสำคัญกับการตีราคาสินทรัพย์
นายวาร์ชกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กว่า เขาเชื่อว่าปัญหาในตลาดซับไพรม์เป็นปัจจัยที่จุดชนวนความผันผวนในตลาดการเงิน แต่ความผันผวนเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าตลาดประเภทอื่นๆจะต้องซบเซาตามไปด้วย
"หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว ผมเชื่อว่าเป็นเพราะนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการตีราคาสินทรัพย์ ทั้งนี้ตามทฤษฎีแล้ว ตลาดที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในตลาดปล่อยกู้จำนองนั้นจะมีภาวะการซื้อขายที่ดีขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และตลาดหุ้นก็ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุด" เขากล่าว
ทั้งนี้ นายวาร์ชกล่าวว่า ตลาดจะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหนนั้นอาจขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนจะรู้สึกมั่นใจในการตีราคามูลค่าสินทรัพย์ได้เร็วเพียงใด
นอกจากนี้ นายวาร์ชเตือนว่า "สภาพคล่องที่ตึงตัวในตลาดยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงในตลาดสินเชื่อ ดังนั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะยังคงประเมินผลกระทบเหล่านี้ และประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งหากจำเป็น เฟดก็จะใช้มาตรการเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาและพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นอย่างยั่งยืน" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--