ธนาคารโลกแนะนำให้จีนขึ้นค่าเงินหยวนเพื่อลดช่องว่างของดุลการค้าที่จีนมีกับประเทศอื่นๆทั่วโลก โดยระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นมากขึ้นจะช่วยให้รัฐบาลจีนบรรลุเป้าหมายการพึ่งพาการส่งออกให้น้อยลงและกระตุ้นอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศให้สูงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างข้อมูลของสำนักงานศุลากรของจีนว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนที่มีกับประเทศอื่นๆทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีมูลค่าทั้งสิ้น 1.61 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตลอดทั้งปี 2549 ที่ 1.77 แสนล้านดอลลาร์
ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลสหรัฐตำหนิว่าค่าเงินหยวนของจีนมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงซึ่งทำให้กลุ่มผู้ส่งออกของจีนได้เปรียบคู่แข่งในประเทศอื่นๆอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่จีนยอมปรับขึ้นค่าเงินหยวนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่กล่าวว่าการปรับขึ้นค่าเงินหยวนเร็วเกินไปจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของจีนเอง
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัว 11.3% ในปีนี้ และคาดว่าจะชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 11% ในปี 2551
นายหลุยส์ คุยจ์ นักวิเคราะห์จากธนาคารโลกกล่าวว่า "ราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นในประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ทั่วโลกแสดงความกังวล และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดคาดว่าราคาอาหารในจีนจะยังไม่ปรับตัวลง อีกทั้งคาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอีกใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--