TMB Analytics มองภาพรวมการส่งออกของไทยปี 64 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.4% จากที่หดตัวราว 6.9% ในปีที่ผ่านมา จากปัจจัยหนุนและปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว และได้ประเมินแนวโน้มตามกลุ่มสินค้าจากปัจจัยลักษณะสินค้าและทิศทางการฟื้นตัวของอุปสงค์เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยใช้มูลค่าส่งออกที่ได้ปรับฤดูกาลแล้ว (seasonally adjusted) เทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดรอบแรกในปีก่อน สามารถแยกออกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 สินค้าฟื้นตัวแล้ว เป็นกลุ่มสินค้าที่คาดว่าในปีนี้จะเติบโตกว่าช่วงก่อนการระบาด หรือมีระดับดัชนีการฟื้นตัวมากกว่า 100 (เทียบค่าเฉลี่ยปี 62=100 ) โดยมีสัดส่วน 42.6% ของมูลค่าส่งออกรวม เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยได้อานิสงส์จากการ Work from Home และเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต สินค้าสำคัญในกลุ่มนี้คือ คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร อย่างไรก็ดี มีสิ่งที่ควรเฝ้าระวังคือ เรื่องค่าเงินบาทแข็งตัว และการแข่งขันสูงจากประเทศคู่แข่ง
กลุ่มที่ 2 สินค้ากำลังฟื้นตัว เป็นกลุ่มสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวในปี 64 แต่ยังคงไม่เท่ากับปี 62 หรือระดับดัชนีการฟื้นตัวอยู่ระหว่าง 90-100 มีสัดส่วน 48.8% ของมูลค่าส่งออกรวม สินค้าสำคัญในกลุ่มนี้คือ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักร เนื่องจากกำลังการผลิตสินค้าของทั่วโลกเริ่มกลับมา อย่างไรก็ดี มีสิ่งที่ควรเฝ้าระวังคือ เรื่องค่าเงินบาทแข็งตัว และความผันผวนของตลาด
กลุ่มที่ 3 สินค้ายังไม่ฟื้น เป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบหนักจากช่วงการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 และเริ่มฟื้นตัวช้า ๆ หรือระดับดัชนีการฟื้นตัวน้อยกว่า 90 คิดเป็น 8.6% ของมูลค่าส่งออกรวม ประกอบไปด้วย สินค้าแฟชั่นต่างๆ และน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเป็นผลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคทั่วโลกลดลง และการผันผวนของราคา โดยกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง ถึงแม้ว่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในปี 64 แต่ปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นช้า คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19
โดยรวมในปี 64 การส่งออกเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากเริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามาสนันสนุน ทั้งนี้ หากไทยเพิ่มศักยภาพและลดอุปสรรคทางการค้าได้ จะมีโอกาสที่ไทยจะสามารถขยายการส่งออกได้มากกว่าที่คาดไว้ หากผู้ประกอบการสามารถรักษามาตรฐาน พัฒนาคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลก บริหารจัดการด้านการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนและสภาวะตลาดได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ภาครัฐควรเร่งดำเนินการเจรจาการค้าระหว่างประเทศโดยเร็ว กับ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร เพื่อให้ไทยไม่เสียเปรียบคู่แข่ง รวมทั้งการช่วยให้ผู้ประกอบการในการเปิดตลาดประเทศใหม่ ๆ ขยายช่องทางในการขายสินค้าในตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น