ดอยท์ชแบงค์ชี้จีนขึ้นเพดานสำรองแบงค์ไม่กระทบเศรษฐกิจ เน้นคุมตลาดหุ้น

          ดอยท์ช แบงค์ ออกมาแสดงทัศนะว่า การที่ธนาคารกลางจีนปรับเพิ่มเพดานสำรองของธนาคารพาณิชย์ จะไม่ส่งผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมต่อเศรษฐกิจจีน และเห็นได้ชัดว่า ธนาคารกลางต้องการควบคุมตลาดหลักทรัพย์
          "การปรับขึ้นเพดานสำรองครั้งนี้ เป็นนโยบายที่ได้มีการคาดการณ์ไว้อยู่แล้วเพื่อสกัดกั้นสภาพคล่องที่สูงเกินไปอันเป็นผลมาจากดุลการชำระเงินสูงเกินไป... อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบที่เป็นรูปธรรมใดๆต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค" หม่า จวิ้น นักเศรษฐศาสตร์ประจำ ดอยท์ช แบงค์ กล่าว 
          ขณะที่ ธนาคารกลางจีน กล่าวว่า สำหรับธนาคารแล้ว มาตรการควบคุมสภาพคล่องในครั้งนี้และในอนาคตอาจส่งผลกระทบแง่ลบเพียงเล็กน้อยต่อนักลงทุนรายย่อย ที่เป็นผู้กู้ยืมสุทธิจากตลาดอินเตอร์แบงค์ 
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า วานนี้ธนาคารกลางจีนประกาศปรับเพิ่มเพดานทุนสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% สู่ระดับ 12.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 25 กันยายนนี้ เพื่อสกัดกั้นสภาพคล่องล้นทะลัก รวมทั้งป้องกันการขยายตัวการกู้ยืมที่มากเกินไป และนับเป็นการปรับเพิ่มครั้งที่ 7 ในปีนี้  
          นอกจากนี้ ดอยท์ช แบงค์ คาดว่า การขยายตัวเงินกู้เมื่อเทียบรายปีจะชะลอตัวลงในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2550 เนื่องจากปัจจัยประจำฤดูกาล การปรับแต่งหน้าต่างบัญชี การดำเนินงานในตลาดเสรี การเพิ่มอัตราสำรอง ตลอดถึงการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
          ธนาคารกลางตกอยู่ภายใต้ความกดดันในการควบคุมตลาดหุ้นเอ แชร์ ซึ่งนำสถิตินิวไฮในเกือบทุกวันทำการ โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ปรับขึ้นอีก 100% แล้วจนถึงขณะนี้ หลังจากที่ปี 2549 ทะยานขึ้นกว่า 130%