(เพิ่มเติม) รมว.คลัง มองเฟดลดดอกเบี้ยส่งผลดีต่อศก.-ตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงทั่วโลก

          นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.50% เมื่อคืนนี้ถือว่าลดลงมากกว่าปกติ เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้มากพอสมควร เนื่องจากเฟดพยายามเข้าไปดูแลสถานการณ์เศรษฐกิจ แต่เท่าที่ทราบหลายฝ่าย โดยเฉพาะนักวิเคราะห์มองว่าปัญหาสินเชื่อซับไพร์มไม่น่าจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ 
          นอกจากนั้น ยังคาดว่าผลของการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในสหรัฐ รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกด้วย ส่วนตลาดหุ้นของไทยนั้นก็ขึ้นกับสถานการณ์ข้างหน้ามากกว่า 
          "การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจสหรัฐได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้ปัญหาซับไพร์มลุกลามมากขึ้น และเมื่อมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ถูกกระทบไปมากกว่านี้น่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้...ค่าเงินไม่ได้ขึ้นกับส่วนต่างของดอกเบี้ย แต่ขึ้นกับความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ" นายฉลองภพ กล่าว 
          นายฉลองภพ กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่ดัชนีตลาดหุ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่เคยได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ตลาดมองว่าปัญหาซับไพร์มจะไม่รุนแรงไปกว่านี้แล้ว และเมื่อสหรัฐมีมาตรการที่เข้มข้นมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็ว 
          "จะเห็นว่าวัฎจักรตลาดเหล่านี้ทั้งตลาดหุ้น ตลาดเงิน และน้ำมันมีการขึ้นลงตลอดเวลา แต่หากมีเงินไหลกลับไปตลาดหุ้น เชื่อว่าจะทำเงินที่เข้าไปเก็งกำไรในตลาดน้ำมันมีน้อยลง และทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้" รมว.คลัง กล่าว 
          รมว.คลัง กล่าวถึงแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศว่า ขึ้นกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะประชุมในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา
          "เชื่อว่าความสามารถของเรามีพอรับความผันผวนจากภายนอก โดยเฉพาะผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอย่ในระดับที่น่าพอใจดังนั้นแม้จะมีความผันผวนในอนาคต เชื่อว่าจะดูแลสถานการณ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนจากอะไร หากดูแลเต็มที่และมีเครื่องมือเพียงพอไม่น่ามีปัญหา ซึ่งขณะนี้มั่นใจว่ามีเพียงพอแล้ว ทั้งจากธปท. คลัง และเมื่อเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่จะมีเครื่องมือในการบริหารหนี้ ที่จะช่วยดูแลสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างเต็มที่" รมว.คลัง ระบุ