ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียช่วงเช้าวันนี้ (13 ก.ย.) หลังจากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ผลกระทบของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นยังได้ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลต่อตลาด แม้ว่าปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อค่าเงินคือความแตกต่างของนโยบายทางการเงินในแต่ละประเทศ โดยค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มว่าจะผ่อนคลายนโยบายคุมเข้มทางการเงินในสหรัฐ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.30 น.ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 114.27 เยนต่อดอลลาร์ เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจาก 114.26 เยนที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.3893 ดอลลาร์ต่อยูโร ลดลงจาก 1.3908 ดอลลาร์ต่อยูโร
จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์เปิดเผยว่า ตลาดเริ่มคลายความผันผวนลงในขณะนี้ แต่ยังมีแนวโน้มว่า อาจจะเผชิญกับความผันผวนใหม่อีกครั้ง
นูนานกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดจะขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในสัปดาห์หน้า โดยเขากล่าวว่า ตลาดยังไม่แน่ใจว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากน้อยแค่ไหน
"ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจสร้างความหนักใจต่อเฟดในการหาข้อสรุปเรื่องอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากภาวะดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านเงินเฟ้อได้" นูนานกล่าวทิ้งท้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--