นักวิเคราะห์ในสหรัฐคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันอังคารที่ 18 ก.ย.นี้ โดยคาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจการประชุมเฟดมากพอๆกับการให้ความสนใจ "ซูเปอร์โบล" หรือการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล และวันเลือกตั้งเลยทีเดียว
นายบ็อบ โดลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัทแบล็คร็อค อิงค์ คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังจากสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรประจำเดือนส.ค.ลดลง 4,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2546 และ ยอดค้าปลีกภายในประเทศเดือนส.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 0.6%
ขณะที่นายเคิร์ท คาร์ล นักวิเคราะห์จากบริษัทสวิส เร คาดว่า เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ตามที่นักลงทุนบางกลุ่มคาดการณ์ไว้ เพราะเชื่อว่าเฟดตั้งการรักษาจุดยืนที่หนักแน่นและไม่เคลื่อนไหวไปตามกระแสคาดการณ์ของตลาด
ทั้งนี้ นายคาร์ลกล่าวว่า เฟดมีท่าทีวิตกกังวลเรื่องค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง ซึ่งส่งผลให้สหรัฐนำเข้าสินค้าในราคาที่สูงขึ้น และทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการเข้าซื้อสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ อาทิ พันธบัตรสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันอังคารนี้อาจจะไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลได้ทั้งหมด เนื่องจากสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายๆด้านในสัปดาห์นี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจจุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายของเฟดในอนาคต สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--