นักวิเคราะห์คาดเฟดลดดอกเบี้ย 0.50% หลังตัวเลขจ้างงานทรุดตัวรุนแรง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 11, 2007 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นักวิเคราะห์กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐทรุดตัวลงอย่างรุนแรง
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรประจำเดือนส.ค.ลดลง 4,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2546 ขณะที่อัตราการว่างงานยังอยู่ที่ระดับ 4.6% เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลขการจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีนั้น เป็นผลมาจากคนงานในภาคการผลิตและการก่อสร้างร่วงลงอย่างมาก โดยภาคการผลิตร่วงลง 46,000 ตำแหน่ง และคนงานก่อสร้างลดลง 22,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2546
"มีความเป็นไปได้สูงมากที่คณะกรรมการเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ เราคาดว่าหากเฟดไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็จะทำให้นักลงทุนในตลาดผิดหวังอย่างรุนแรง และจะส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวนมากขึ้น" นายร็อบ คาร์เนลล์ นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี แบริงส์ กล่าว
ขณะที่นายพอล อาร์ชเวิร์ธ นักวิเคราะห์จากแคปิตอล อิโคโนมิกส์ กล่าวว่า แม้แทบจะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าตัวเลขจ้างงานได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนในตลาดการเงิน แต่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่มีการเปิดเผยครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมาถึงจุดวิกฤติแล้ว เราจึงเชื่อว่าเฟดจะต้องยื่นมือเข้าพยุงเศรษฐกิจด้วยการใช้มาตรการหลายด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดพร้อมจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวทำให้นักลงทุนตีความว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงสู่ระดับ 5.00% ในสัปดาห์หน้า
ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อนั้น เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างเต็มที่ โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวในอัตรา 4% แต่คาดว่าตัวเลข GDP จะชะลอตัวลงอย่างหนักในไตรมาส 3 และคาดว่าจะชะลอตัวลงอีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ