นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Free Trade Agreement : AHKFTA) มีผลบังคับใช้ระหว่างฮ่องกงและประเทศสมาชิกอาเซียนบางส่วน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 โดยกัมพูชา เป็นประเทศเดียวในปัจจุบันที่ยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ จึงได้แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนว่าพร้อมที่จะเริ่มใช้ความตกลง AHKFTA แล้ว ซึ่งการดำเนินการของกัมพูชา จะส่งผลให้ความตกลง AHKFTA มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์กับทุกประเทศสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.นี้
นางอรมน กล่าวว่า สำหรับไทยจะได้รับประโยชน์จากความตกลง AHKFTA ในหลายเรื่อง อาทิ การค้าสินค้า โดยฮ่องกงได้ยกเว้นภาษีศุลกากรให้กับสินค้าส่งออกจากไทยทุกรายการแล้ว ทำให้ในปี 2563 มีสินค้าส่งออกจากไทยไปฮ่องกงเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนความตกลงมีผลบังคับใช้ อาทิ สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง มูลค่า 104.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (+3,596%) อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ มูลค่า 436.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (+1,530%) เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว มูลค่า 168.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (+119%) ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง มูลค่า 40.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (+93%) และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 412.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (+66%)
ในส่วนของการค้าบริการ ฮ่องกงเปิดตลาดภาคบริการให้ไทยและอาเซียนมากกว่าสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) โดยเฉพาะการเปิดตลาดเพิ่มเติมตามข้อเรียกร้องของไทยในบริการการผลิตเนื้อหารายการแก่ผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ทำให้ผู้ประกอบการไทยถือหุ้นได้ 100% แบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจได้อย่างครบวงจรในฮ่องกง
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังได้เห็นความสำคัญที่จะให้ไทยเป็นฐานการทำธุรกิจ การค้าและการลงทุนในภูมิภาค จึงได้ตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย (Hong Kong Economic and Trade Office: HKETO) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นสำนักงานแห่งที่ 3 ในอาเซียน (2 แห่งแรก คือ สิงคโปร์และอินโดนีเซีย)
ปัจจุบันฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย โดยในปี 2563 การค้าระหว่างไทยกับฮ่องกง มีมูลค่า 13,298 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออก มูลค่า 11,292 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้า มูลค่า 2,006 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ อากาศยาน ยานอวกาศและส่วนประกอบ โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ และข้าว สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย เงินแท่งและทองคำ ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ สินแร่โลหะอื่นๆ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป