รมช.คลังสหรัฐแนะจีนเน้นอุปสงค์ในประเทศเป็นตัวนำเศรษฐกิจแทนส่งออก

          รัฐมนตรีช่วยคลังสหรัฐ ออกมาแสดงความเห็นว่า จีนควรใช้ปัจจัยอุปสงค์ภายในประเทศเป็นยุทธศาสตร์ชี้นำการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเลิกใช้ปัจจัยส่งออกเป็นตัวชี้นำการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากค่าเงินหยวนที่ต่ำกว่าความเป็นจริง
          "รูปแบบของราคา ซึ่งคงที่เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่มีความยืดหยุ่น ได้กระตุ้นการผลิตในอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ซึ่งหลายอุตสาหกรรมต้องใช้ทรัพยากรสูงมาก" เดวิด แม็คคอร์มิค รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการต่างประเทศ กล่าวสุนทรพจน์ ณ กรุงปักกิ่ง
          แม็คคอร์มิค ได้เลิกเรียกค่าเงินหยวนที่ต่ำกว่าความเป็นจริงว่าเป็นการอุดหนุนการส่งออก อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่า ค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริง และเรียกร้องให้จีนใช้มาตรการหลายประการ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การลดพึ่งพาการส่งออก และเพิ่มอุปสงค์ในประเทศให้สูงขึ้น
          การแสดงทัศนะของแม็คคอร์มิค มีแนวโน้มที่จะจุดประกายความพยายามของบริษัทสหรัฐที่ต้องการให้มีการผ่านกฎหมาย เพื่อให้มีการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนที่ได้ประโยชน์จากนโยบายค่าเงินของจีนให้สูงขึ้น
          ขณะที่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งสนับสนุนกฎหมาย ได้โต้แย้งมาเป็นเวลาหลายปีเรื่องที่ค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริง ว่า ได้ช่วยส่งเสริมการส่งออก และจำเป็นต้องมีการมองว่าเป็นการอุดหนุนต่อผู้ผลิตจีน 
          รัฐบาลของประธานาธิบดี บุช ได้คัดค้านกฎหมายฉบับนี้ โดยแย้งว่า การเจรจาอย่างต่อเนื่องกับจีนเป็นวิถีทางที่ดีที่สุดให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องเงินหยวน 
          นอกจากนี้ เขากล่าวว่า ค่าเงินหยวนที่มีความยืดหยุ่นจะไม่ยับยั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน แต่กลับกันจะนำไปสู่การเติบโตที่มีความสมดุลและยั่งยืน ด้วยวิถีทางการเพิ่มการนำเข้า และสร้างเงื่อนไขจูงใจใหม่ๆสำหรับผู้บริโภคชาวจีน
          ขณะเดียวกัน เขาได้เตือนว่า ภาวะไร้สมดุลกำลังขยายตัวรุนแรงมากขึ้นในจีน อาทิ ความแตกต่างของการเติบโตในชนบทและเขตเมือง ความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจและสังคม ตลอดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจและการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม 
          เขาได้แนะนำถึงหนทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลเหล่านี้ ด้วยการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม การลดดอกเบี้ยเงินฝาก การเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม และพัฒนาภาคบริการการเงิน 
          "การเน้นเรื่องการออมจะช่วยให้ทุกภาคครัวเรือนของจีนมีเครื่องมือที่จำเป็นในการสร้างสินทรัพย์อย่างรวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริโภคสูงขึ้น รวมถึงมาตรฐานการครองชีพทั้งในปัจจุบันและเมื่อเกษียณอายุแล้ว" แม็คคอร์มิค กล่าวทิ้งท้าย