นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 โดยเพิ่มเติมข้อกำหนดยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายมาตรา 4 (2) จากเดิมที่ให้ยกเว้นการใช้บังคับแก่การกระทำของรัฐวิสาหกิจทุกประเภท เป็นให้ยกเว้นการใช้บังคับแก่การกระทำของรัฐวิสาหกิจที่มิได้ประกอบธุรกิจเป็นทางการค้าปกติแข่งขันกับเอกชน เพื่อให้รัฐวิสาหกิจที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันกับเอกชนต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นด้วยในหลักการที่จะกำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่ประกอบธุรกิจเป็นทางการค้าปกติแข่งขันกับเอกชน ต้องอยู่ภายใต้หลักการกฎหมายการแข่งขันทางการค้า เช่นเดียวกับผู้ประกอบธุรกิจเอกชนโดยทั่วไป เพื่อส่งเสริมให้การประกอบธุรกิจของประเทศเป็นไปอย่างเสรี ป้องกันการกระทำที่ไม่เป็นธรรมทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจ
นายโชติชัย กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีข้อสังเกตบางประการ เช่น การกำหนดถ้อยคำให้ยกเว้นการใช้บังคับ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 กับรัฐวิสาหกิจที่มิได้ประกอบธุรกิจเป็นทางค้าปกติแข่งขันกับเอกชน ยังไม่ชัดเจนว่าจะครอบคลุมรัฐวิสาหกิจประเภทใดและกิจการใด และอาจก่อให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องวินิจฉัยเป็นรายกรณี
และการกำหนดให้ใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าครอบคลุมรัฐวิสาหกิจทั้งองค์กรอาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานตามกฎหมายจัดตั้งของรัฐวิสาหกิจที่มีการประกอบกิจการหลายด้าน ซึ่งรวมทั้งกิจการที่แข่งขันกับเอกชน และกิจการที่โดยสภาพหรือตามกฎหมายไม่มีการแข่งขันกับเอกชน จึงควรพิจารณากลไกการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อกำหนดรายชื่อ และ /หรือกิจการของรัฐวิสาหกิจที่จะอยู่ภายใต้ หรือได้รับยกเว้นกฎหมายการแข่งขันทางการค้าเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงหลักการที่มีนัยสำคัญ สมควรที่จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของรัฐวิสาหกิจในฐานะผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง เพื่อให้มีการพิจารณาผลกระทบและขอบเขตการบังคับใช้โดยรอบคอบ และเพื่อให้ครบขั้นตอนการเสนอกฎหมายที่กำหนดในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2548 หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตรากฎหมายต่อไป
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--