นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการผลิตข้าวและการเชื่อมโยงตลาดข้าวของไทยในการสัมมนามอบแนวทางการปฏิบัติงานโครงการส่งเสริมนาแปลงใหญ่ของกรมการข้าวปีงบประมาณ 2564 ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ เกิดการว่างงาน ซึ่งอาจเป็นโอกาสของภาคเกษตรที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้เข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นกรมการข้าวซึ่งมีภารกิจและโครงการที่สำคัญ อาทิ ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนการดำเนินงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ และเพื่อให้ชาวนาไทยได้มีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี มีองค์ความรู้ และเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย
รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เมล็ดพันธุ์ข้าวถือเป็นหัวใจสำคัญของชาวนา ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงเกษตรกรจึงเน้นย้ำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพ เพื่อให้ชาวนาได้ผลผลิตที่ดี ลดต้นทุน นอกจากนี้จะต้องปรับแผนการผลิตข้าวให้ตรงตามความต้องการของตลาด โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ 1.ข้าวหอมมะลิ 2.ข้าวหอมไทย 3.ข้าวเจ้า 4.ข้าวเหนียว และ 5.ข้าวตลาดเฉพาะ โดยมอบหมายให้ศูนย์วิจัยข้าวทั้ง 28 ศูนย์ ร่วมมือกันวิจัยทั้ง 5 ประเภท เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด
"ขอให้ทุกศูนย์ฯ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยเน้นการแก้ไขในระยะสั้นให้เกิดเป็นรูปธรรม เพราะอีก 3 เดือนชาวนาจะเริ่มหว่านข้าว จึงต้องหาเมล็ดพันธุ์ให้เพียงพอ การร่วมมือกันจะทำให้เกิดประโชยน์แก่พี่น้องชาวนาให้ได้มีเมล็ดพันธุ์ดีใช้" นายประภัตร กล่าว
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งหน่วยเฉพาะกิจ เพื่อเข้าไปตรวจสอบเมล็ดพันธุ์ที่ขายตามร้านค้า โดยจะขอความร่วมมือไม่นำเมล็ดพันธุ์ปลอมมาขาย รวมทั้งตรวจสอบราคาให้เป็นไปตามที่กำหนด