นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.50 ได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคการส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ในระดับสูงอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวลงในเดือน ก.ค.50
นอกจากนี้ภาคการคลังยังคงมีบทบาทต่อเนื่องในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ส่วนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกยังอยู่ในเกณฑ์ดี
สำหรับเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการคลังในเดือน ส.ค.แสดงถึงบทบาทของรัฐบาลในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยในเดือนนี้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้รวมทั้งสิ้น 122.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ที่ขยายตัว 5.1% มูลค่าการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวเพิ่มถึง 25% และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งกลับมาขยายตัวเป็นบวกเป็นเดือนที่ 2
ส่วนการลงทุนภาคเอกชนในเดือน ส.ค.50 ปรับตัวดีขึ้น โดยดูได้จากการนำเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้น 7.1% จากเดือน ก.ค.ที่ลดลง 3.3% ขณะที่มูลค่าการนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 14% คิดเป็นมูลค่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นางพรรณี กล่าวว่า เสถียรภาพทั้งภายในและภายนอกยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ ส่วนเครื่องชี้เสถียรภาพภายนอกประเทศอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยทุนสำรองระหว่างประเทศนับถึงสิ้นเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้านี้มาอยู่ที่ 74.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นค่อนข้างมาก
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--