นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.วานนี้ (24 ก.พ.) ได้เห็นชอบตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ซึ่งเสนอโดยกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาข้าวให้มีคุณภาพดี เพื่อที่จะมีโอกาสขายข้าวในราคาที่สูงและมีรายได้มากขึ้น
โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 กับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในอัตราไร่ละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 28,000 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกรจำนวน 4.56 ล้านครัวเรือน โดย ธ.ก.ส. จะทยอยโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2564
ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบจำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชี ผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile และกรณีที่เกษตรกรลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่าน LINE Official BAAC Family เมื่อเงินเข้าบัญชีของท่านแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้เห็นชอบโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/64 โดยเป็นการปรับกรอบวงเงินจาก 19,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 4,504 ล้านบาท ประกอบด้วย วงเงินสินเชื่อ จำนวน 3,500 ล้านบาท วงเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าว จำนวน 480 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จำนวน 524 ล้านบาท รวมเป็น 24,330 ล้านบาท เพื่อรองรับการชะลอปริมาณข้าวเปลือกเพิ่มเติม จำนวน 0.32 ล้านตันข้าวเปลือก รวมเป็น 1.82 ล้านตันข้าวเปลือก พร้อมขยายระยะเวลาจัดทำสัญญากู้ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 เป็น 31 มีนาคม 2564
และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 (เพิ่มเติมครั้งที่ 2) โดยขอปรับกรอบวงเงินจากเดิม 46,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 3,839 ล้านบาท รวมเป็น 50,646 ล้านบาท โดยเป็นเงินชดเชยการประกันรายได้ให้เกษตรกร วงเงิน 3,755 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ วงเงิน 84 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/64 และโครงการประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ธ.ก.ส. จะดำเนินการเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบแล้ว