สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัวรายงานการค้าและการพัฒนาประจำปี 2007 ของที่ประชุมองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(UNCTAD) โดย UNCTAD คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยังคงมีแรงผลักดันและยังสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัว 3.4% ขณะที่เศรษฐกิจอาเซียนจะขยายตัว 5.7%
ทั้งนี้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาจะยังคงมีความต้องการสินค้าอุปโภคขั้นพื้นฐานในปริมาณที่ค่อนข้างสูง แนวโน้มที่เป็นบวกในสภาวะการค้าตั้งแต่ปี 2003 ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาในทุกภูมิภาคสามารถเสริมสร้างดุลการคลังให้เข้มแข็งขึ้น
ในรายงานยังระบุว่า GDP ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาต่างเพิ่มขึ้นเกือบ 30% ในช่วงปี 2003-2007 ขณะที่ GDP ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ(กลุ่ม G7) เพิ่มขึ้นเพียง 10% โดยในปี 2007 ซึ่งเป็น 6 ปีหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว พบว่าประเทศกำลังพัฒนาไม่ถึง 10 ประเทศจาก 143 ประเทศ มีรายได้ต่อหัวลดลง
รายงานของ UNCTAD ระบุว่า ประเทศจีนและอินเดียจะเป็นผู้กำหนดสภาวะการเติบโตในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และการลงทุนของประเทศยังคงเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและแนวโน้มยังคงเป็นเช่นนี้ในอีกหลายปีข้างหน้า เพราะที่ผ่านมาการเจริญเติบโตของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามาจากรายได้การส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกที่แท้จริงของประเทศที่กำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ในช่วงปี 1998-2006
อย่างไรก็ดี สภาวะการปรับตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างรุนแรงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปริมาณการส่งออกของประเทศกำลังพัฒนาจะลดลงอย่างมาก รวมถึงปัญหาซับไพร์มด้วย
พร้อมมองว่าแม้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ช่องว่างมาตรฐานค่าครองชีพของประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่กำลังพัฒนายังคงห่างกัน โดยในปี 1980 รายได้ต่อหัวของประเทศที่พัฒนาแล้วสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาถึง 23 เท่า ส่วนปีนี้อาจจะลดลงเหลือ 18 เท่า
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--