นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) แจ้งว่า กกพ.ได้เปิดรับฟังความเห็นร่างประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้า และร่างระเบียบการจัดหาไฟฟ้าใน "โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาลและสูบน้ำเพื่อการเกษตร(โครงการนำร่อง) พ.ศ...." โดยเปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ 3-17 มี.ค. 2564 นี้ ผ่านทางเว็บไซต์ กกพ. www.erc.or.th
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เมื่อวันที่25 ธ.ค.2563 ให้ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โดยแบ่งเป็นกลุ่ม โครงการโซลาร์ภาคประชาชน 50 เมกะวัตต์ ของปี 2564 และกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของปี 2564 จำนวน 50 เมกะวัตต์ โดยกลุ่มนี้จะรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบในอัตรา 1 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็นรับซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา 20 เมกะวัตต์ ,กลุ่มโรงพยาบาล 20 เมกะวัตต์ และกลุ่มสูบน้ำเพื่อการเกษตร 10 เมกะวัตต์ โดยให้มีกำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 10 กิโลวัตต์ แต่ไม่เกิน 200 กิโลวัตต์ ระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี
ร่างประกาศดังกล่าวกำหนดรายละเอียดให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเปิดรับคำเสนอขอขายไฟฟ้าตั้งแต่ 1 พ.ค.-30 ก.ย. 2564 และประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกและทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 30 ธ.ค. 2564 โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจะเป็นแบบการผลิตไฟฟ้าไม่เสถียร (Non-Firm) รวมปริมาณรับซื้อไฟฟ้า 50 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) รับซื้อไฟฟ้าจากโรงเรียน สถานศึกษา 6 เมกะวัตต์ และโรงพยาบาล 6 เมกะวัตต์ สำหรับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับซื้อจากโรงเรียนและสถานศึกษา 14 เมกะวัตต์ ,โรงพยาบาล 14 เมกะวัตต์ และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทสูบน้ำเพื่อการเกษตร 10 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ จะรับซื้อไฟฟ้าอัตรา 1 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 10 ปี กำหนดให้ผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ(SCOD) ภายใน 31 ธ.ค. 2564 ซึ่งการพิจารณาคำเสนอขายไฟฟ้าจะเรียงตามลำดับวันและเวลาที่ได้รับก่อนหลังตามความพร้อม(First come, First served )