อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยคาดบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า, อีซูซุ, ฮอนด้า, มิตซูบิชิ และนิสสัน จะยังคงแสวงหาแหล่งการผลิตที่ต้นทุนต่ำและยังสนใจลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ เนื่องจากไทยเป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนที่สำคัญ และยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท เชื่อว่า การลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศยังคงมีต่อไป แม้ว่าแรงงานราคาถูกจะเริ่มหายากขึ้นในสภาพการแข่งขันทางการค้าของโลกที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น
เนื่องจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่การนำเข้ามีปริมาณลดลง เนื่องมาจากนโยบายส่งเสริมต่างๆ ของภาครัฐและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
ด้านนายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญด้วยการสนับสนุนผ่านนโยบายของรัฐ ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเป็นเจ้าของรถที่ 9 คนต่อ 1 คน จึงทำให้โอกาสการขยายตัวของอุตสาหกรมรถยนต์ในประเทศยังคงมีอยู่สูง
นอกจากนี้การทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกลุ่ม BIMSTEC จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมการผลิตและการส่งออกรถของไทยพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมรถยนต์ต่อไป
อย่างไรก็ดี ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.50) ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลง 7% ในขณะที่ปีนี้โตโยต้าคาดว่าจะทำยอดขายได้ 2.8 แสนคัน จากเป้าการขายรถยนต์ในประเทศรวม 3.5 แสนคัน
ด้านนาย David R.Nadone กรรมการผู้จัดการ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน แสดงความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะเติบโตได้ในอัตราร้อยละ 16 ในปัจจุบัน และจะเพิ่มเป็นร้อยละ 37 ในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2553)
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--