ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์ร่วงเทียบยูโร-เยน หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐอ่อน

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน เงินปอนด์ และยูโร หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวลดลงเกินคาด เสมือนเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลง และมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้
          ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยแม้เป็นยุทธศาสตร์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะส่งผลกระทบต่อค่าเงิน เพราะจะทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินนั้นๆลดน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 113.34 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 115.29 เยนต่อดอลลาร์  ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3768 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.3687 เยนต่อดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์ทะยานขึ้นแตะระดับ 2.0279 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0231 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรประจำเดือนส.ค.ลดลง 4,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2546 ขณะที่ อัตราการว่างงานยังอยู่ที่ระดับ 4.6% เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน 
          อัตราการจ้างงานที่ลดลงในเดือนส.ค. ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินกำลังเผชิญความวุ่นวายอย่างหนักจากวิกฤตสินเชื่อที่ขยายตัวเป็นวงกว้างนั้น ตรงข้ามกลับที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 ตำแหน่ง
          ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ตัวเลขการจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีนั้น เป็นผลมาจากคนงานในภาคการผลิตและการก่อสร้างร่วงลงอย่างมาก โดยภาคการผลิตร่วงลง 46,000 ตำแหน่ง และคนงานก่อสร้างลดลง 22,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2546
          "ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งถือเป็นอีกวันหนึ่งที่ดอลลาร์เผชิญแรงกดดันอย่างรุนแรงจากตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาด โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลง" นายเดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติกส์ กล่าว