นักวิเคราะห์คาดเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าเพื่อกู้วิกฤติสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Monday September 3, 2007 10:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นักวิเคราะห์ในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับ 5.25%  หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ว่า เฟดจะทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นเพื่อปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้ได้รับความเสียหายจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มซับไพรม์
นายลิล แกรมลีย์ อดีตเจ้าหน้าที่เฟดและปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของบริษัทสแตนฟอร์ด วอชิงตัน รีเสิร์ช กรุ๊ป กล่าวว่า "มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะปรับลดอัตราประเภทระยะสั้นลงสู่ระดับ 5.0% ในที่ประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.ย.นี้ และคาดว่าหลังจากเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนต.ค.และเดือนธ.ค. เนื่องจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ครั้งนี้ เป็นวิกฤตการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี"
"การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้ประชาชนหลายล้านคนและกลุ่มธุรกิจในสหรัฐกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งนี่เป็นยุทธวิธีที่เฟดใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ" เขากล่าว
ด้านนายคาร์ล ทันเนนโบม นักวิเคราะห์จากธนาคารลาซาล คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น แต่คาดว่าในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมก่อน แม้วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อในตลาดนี้ดูเหมือนจะรุนแรงมากก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายเบอร์นันเก้กล่าวในที่ประชุมประจำปีของเฟดซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ็คสันโฮล ว่า "เฟดจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์สินเชื่อฉุดรั้งอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ"
ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชประกาศแผนให้ความช่วยเหลือลูกหนี้จากการผิดนัดชำระสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อลดความผันผวนในตลาดการเงินที่เกิดจากวิกฤติสินเชื่อ โดยบุชกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะผ่านพ้นวิกฤติสินเชื่อครั้งนี้ไปได้ และปัญหาในตลาดซับไพรม์ก็มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของเศรษฐกิจโดยรวม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ