นายเคจิ กันดะ นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยไดวากล่าวว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือนก.ค.นั้น ไม่ได้เป็นปัจจัยที่จะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะลดดอกเบี้ยลงในการประชุมสัปดาห์หน้า เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาตลาดซับไพรม์สหรัฐยังคงมีอยู่
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนขยายตัวในระดับที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 4 ปีในเดือนก.ค. เนื่องจากยอดสั่งซื้อโทรศัพท์มือและอุปกรณ์เหมืองแร่จำนวนมาก
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร์ปรับตัวสูงขึ้น 17.0% จากระดับเดือนมิ.ย. แตะ 1.123 ล้านล้านเยน นับเป็นสถิติการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า จะขยายตัว 5.9% และยังเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2546 ซึ่งยอดสั่งซื้อเครื่องจักรขยายตัว 17.2%
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคเอกชน ซึ่งไม่นับรวมอุปกรณ์ไฟฟ้าและคำสั่งต่อเรือนั้น ถูกมองว่าเป็นดัชนีชี้นำการใช้จ่ายของภาคเอกชน
นายกันดะกล่าวว่า ข้อมูลยอดสั่งซื้อเดือนก.ค.ที่ออกมาเป็นบวกนั้น ยังไม่จัดว่าเป็นข้อมูลที่แข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ขณะเดียวกันดัชนีราคาผู้บริโภคยังคงอ่อนตัว เช่นเดียวกับข้อมูลจีดีพีล่าสุด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--