น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ "เราชนะ" ณ วันที่ 15 มีนาคม 2564 ดังนี้ 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 49,451 ล้านบาท
2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น และยืนยันการใช้สิทธิร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.6 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 66,804 ล้านบาท
3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 0.5 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 2,049 ล้านบาท
"ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิในโครงการเราชนะแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 30.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 118,304 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ" น.ส.กุลยาระบุ
สำหรับการคัดกรองคุณสมบัติประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ "เราชนะ" ระหว่างวันที่ 22 ก.พ. - 5 มี.ค.64 ประชาชนกลุ่มดังกล่าว สามารถตรวจสอบสถานะการคัดกรองคุณสมบัติได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับวงเงินสิทธิครั้งแรก จำนวน 6,000 บาท ในวันที่ 19 มีนาคม 2564 และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิดังกล่าว ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ
ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2564 โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือติดต่อสาขาของธนาคารกรุงไทย (KTB)