ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันคืนนี้ (20 ก.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์แคนาดา ยูโร และสกุลเงินรูปีของอินเดีย ซึ่งหมายความว่าชาวอเมริกันจะต้องจ่ายเงินมากขึ้นในการนำเข้าสินค้าและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังกรุงปารีส กรุงโรม เมืองบังกาลอร์ และโตรอนโต้ แม้อีกด้านหนึ่งนั้น การอ่อนตัวลงของดอลลาร์สหรัฐอาจกระตุ้นให้ต่างประเทศสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลประกอบการให้กับบริษัทเอกชนข้ามชาติในสหรัฐก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในระหว่างวันนั้น ดอลลาร์แคนาดาแข็งแกร่งขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ( 1 ดอลลาร์แคนาดาเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2519 ก่อนที่จะถอยร่นลงมาอยู่ที่ระดับ 99.93 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา แต่ก็ยังแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับระดับของวันพุธ
ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ หลังจากรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 0.6% โดยดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 2.0099 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0025 ดอลลาร์ต่อปอนด์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 114.44 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 116.09 เยนต่อดอลลาร์
ดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4076 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.4098 ดอลลาร์ต่อยูโร
นอกจากนี้ ดอลลาร์ดิ่งลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินรูปีของอินเดีย เนื่องจากกองทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้าไปลงทุนในอินเดียซึ่งมีเศรษฐกิจที่กำลังเฟื่องฟูอยู่ในขณะนี้ โดยรูปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 39.92 ดอลลาร์ต่อรูปี
"การร่วงลงของค่าเงินดอลลาร์เมื่อคืนนี้ได้ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลในวงกว้าง อีกทั้งมีอิทธิพลต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันนิวยอร์ก นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการร่วงลงของดอลลาร์น่าเป็นห่วงมากกว่าการชะลอตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ" นายเดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติกส์กล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--