รัฐให้ทบทวนแผนอนุรักษ์พลังงานระยะที่ 3 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

          นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เห็นชอบการทบทวนแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3 ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานใน 4 แนวทางซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกลงทุนเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานเพิ่มขึ้น
          โดยทั้ง 4 แนวทาง ประกอบด้วย การส่งเสริมการใช้อุปกรณ์แสงสว่างประสิทธิภาพสูง, การสนับสนุนธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน ESCO, การส่งเสริมการจัดการด้านการใช้พลังงานโดยวิธีประกวดราคา(DSM Bidding) และการส่งเสริมการลดใช้พลังงานในสาขาขนส่ง
          "จากการปรับแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 3 นี้ จะทำให้สามารถลดการใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ ในปี 54 ได้ประมาณ 14,350 
พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบหรือเทียบเท่าการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 12,611 ล้านลิตร และประหยัดไฟฟ้าได้ 34,228 ล้านหน่วย" นายวีระพล กล่าว
          สำหรับการส่งเสริมการใช้อุปกรณ์แสงสว่างประสิทธิภาพสูง จะรณรงค์ใช้หลอดหลอดผอมใหม่เบอร์ 5 แทนหลอดผอมเดิม โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 110 ล้านหลอด หรือ 50% ของจำนวนหลอดทั้งระบบ ในปี 55 ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 4,790 ล้านหน่วย/ปี ลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ได้ 1,040 เมกะวัตต์ 
          ด้านการสนับสนุน ESCO โดยจัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุนในโครงการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน โดยในปี 51 จะทดลองดำเนินการในวงเงิน 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนมากกว่า 2,500 
ล้านบาท เกิดผลประหยัดด้านพลังงานมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท/ปี
          ส่วนการส่งเสริมการจัดการด้านการใช้พลังงานโดยวิธีประกวดราคา DSM Bidding นั้น เป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการโรงงานและอาคารธุรกิจตัดสินใจลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในกิจการ โดยการจัดทำโครงการลดการใช้พลังงานในกิจการของตน 
และยื่นขอรับเงินสนับสนุนต่อหน่วยค่าพลังงานที่จะลดการใช้ลงใน 1 ปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านหน่วย/ปี และช่วยลดความต้องการไฟฟ้าได้ 77 เมกะวัตต์ 
          ขณะที่การส่งเสริมลดการใช้พลังงานในสาขาขนส่ง ได้จัดเตรียมพื้นที่จอดแล้วจร(Park&Ride) เพิ่มเติม พร้อมจัด Feeder อำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างที่จอดรถไปยังระบบขนส่งมวลชน และจะเข้าไปช่วยผู้ประกอบกิจการบริการขนส่งสินค้าศึกษาความเหมาะสมวิธีลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง สร้างแนวทางจูงใจใหม่ให้ผู้ประกอบกิจการต่างๆ ลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในกิจการของตน พร้อมทั้งจัดโปรแกรมฝึกอบรมวิธีการขับประหยัดน้ำมันและปลอดภัยให้กับผู้ขับยานพาหนะของหน่วยงานรัฐและเอกชนอีกด้วย
          นายวีระพล กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการส่งเสริมการลงทุนพัฒนาพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น โดยเร่งผลักดันพลังงานทดแทนที่เหมาะสมกับประเทศไทย เน้นดำเนินการในสิ่งที่มีอยู่แล้วในประเทศ เช่น น้ำเสีย ขยะ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 
          ด้านการทบทวนเป้าหมายมาตรการส่งเสริมการใช้เอทานอล จะเพิ่มประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และยังคงรักษาส่วนต่างราคาเพื่อจูงใจผู้ใช้ เพิ่มแรงจูงใจแก่ผู้จำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ส่งเสริมให้มีรถยนต์ที่สามารถใช้ E20 เป็น 150,000 คันในปี 54 พร้อมทั้งให้รถจักรยานยนต์ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และปรับเป้าหมายการใช้เอทานอลในปี 54 จาก 3 ล้านลิตร/วัน เป็น 2.4 ล้านลิตร/วัน