หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานในวันนี้ว่า นายโรนัลด์ อาร์คัลลี ประธานบริษัทฮ่องกง เอ็กซ์เชนจ์ แอนด์ เคลียริ่ง (HKEx) ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นฮ่องกง เรียกร้องให้มีการควบรวมกิจการระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีน เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดหุ้นยักษ์ใหญ่รายอื่นๆของโลกได้ อาทิ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ตลาดหุ้นลอนดอน และตลาดหุ้นโตเกียว
"การควบรวมกิจการอย่างเต็มรูปแบบถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่เราจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาต่างๆอีกมา อาทิ การแปลงสกุลเงินหยวนและปรับโครงสร้างการซื้อขายแลกเปลี่ยน" นายอาร์คัลลีกล่าวกับเซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์
แนวความคิดควบรวมกิจการของนายอาร์คัลลียังรวมถึงการจัดตั้งแพลทฟอร์มการซื้อขายและจดทะเบียนหุ้นที่ครอบคลุมถึงตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น และตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ โดยการซื้อขายผ่านแพลทฟอร์มดังกล่าวจะทำให้มีมูลค่าการซื้อขายรวมสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในช่วง 7 เดือนแรกของปี ซึ่งเป็นวอลุ่มระดับสูงสุดอันดับ 8 ของโลก
ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจอห์น ซัง รมว.คลังฮ่องกง ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการควบรวมกิจการระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนเช่นกัน หลังจากรัฐบาลฮ่องกงประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า รัฐบาลได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัท HKEx เป็น 5.88% จากเดิมที่ถือหุ้นในสัดส่วนไม่ถึง 5% โดยนายซังกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการควบรวมกิจการระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีน และการสนับสนุนการซื้อขายหุ้นข้ามพรมแดน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศว่าจะอนุญาตให้นักลงทุนชาวจีนสามารถเข้าไปลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นจีน แต่สื่อมวลชนหลายแขนงรายงานว่าแผนการดังกล่าวอาจมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--