น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า และกลไกสนับสนุนอื่นๆ เพื่ออำนวยความร่วมมือหลังจากเสร็จสิ้นการทบทวนนโยบายการค้า ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าในระดับรัฐมนตรี เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายและส่งเสริมการค้า การลงทุน ภายหลังการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (เบร็กซิท) ผ่านการจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ (MOU) โดยจะมีการลงนามร่วมกันในวันที่ 29 มี.ค.64
สำหรับร่าง MOU ฉบับดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร และจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า ทำหน้าที่ส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายสนใจและมีศักยภาพร่วมกัน โดยดำเนินการกิจกรรมผ่านการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชน การเข้าร่วมเวทีธุรกิจระหว่างประเทศ การประชุมและสัมมนาระหว่างประเทศ งานแสดงสินค้า นิทรรศการ กิจกรรมทางธุรกิจทั้งออนไลน์และออฟไลน์
สำหรับคณะกรรมการร่วมฯ จะมี รมว.พาณิชย์ของไทย และ รมช.การค้าระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักรหรือผู้แทน เป็นประธานร่วม ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมร่วมกันปีละ 1 ครั้ง เพื่อทบทวนการดำเนินงานภายใต้ร่าง MOU พิจารณาข้อเสนอแนะและจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน และเสนอแนะแนวทางแก้ไขอุปสรรคทางการค้าและการลงทุน
น.ส.รัชดา กล่าวว่า การจัดทำ MOU ฉบับนี้เป็นการขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจและมีศักยภาพร่วมกัน เช่น การเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม เทคโนโลยี และการให้บริการด้านการเงิน อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันในอนาคต
ในส่วนความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA)ไทยกับสหราชอาณาจักร ทางกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการศึกษาประโยชน์ และผลกระทบจากการจัดทำ FTA ระหว่างกันในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถเผยแพร่ผลการศึกษาได้ในเร็วๆ นี้
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรในปี 2563 ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 4,875 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยส่งออก 3,087 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 1,788 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น ไก่แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์และอุปกรณ์ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น