แบงก์เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินนอกเหนือเงินฝากหวังสกัดลูกค้าย้ายแบงก์

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday September 23, 2007 18:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอนุรักษ์ ตันติพิพัฒนา รองผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์เงินฝากและค่าธรรมเนียมธุรกิจลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปีนี้ได้ก้าวมาสู่จุดต่ำสุดแล้ว ซึ่งทิศทางต่อไปจะเริ่มพลิกกลับเป็นอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างเงินกู้และเงินฝาก(Spread)ของธนาคารแต่ละแห่ง
ประกอบกับระดับความเข้มข้นของการแข่งขันแย่งปริมาณเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งสังเกตได้ว่าล่าสุดธนาคารหลายแห่งได้เตรียมพร้อมระดมเงินฝากผ่านโครงการพิเศษ เพื่อล็อกต้นทุนอัตราดอกเบี้ยจ่ายและนำไปใช้ปล่อยสินเชื่อในปีหน้าโดยเฉพาะโครงการวางระบบสาธารณูปโภคของรัฐบาล
ในส่วนของธนาคารกสิกรไทยขณะนี้ได้ตั้งรับปัญหาดังกล่าวผ่านการออกตราสารหนี้ โดยกองแรกเปิดขายเมื่อสัปดาห์ก่อนระดมเงินได้มากถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งเร็วๆ นี้เตรียมออกจำหน่ายอีก 1 กอง รวมถึงได้ออกจำหน่ายตั๋วบี/อี อายุ 6 เดือนเมื่อเดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะระดมเงินฝากได้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท และล่าสุดส่วนลูกค้าเงินฝาก 60% เป็นรายใหญ่ และ 40% เป็นลูกค้ารายย่อย
นอกจากนี้ ยังยอมรับว่าการกำหนดใช้ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากในอนาคตจะทำให้ระบบธนาคารประสบปัญหาการโยกเงินฝาก โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงเร่งให้ความรู้แก่ลูกค้าธนาคารรู้จักผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ นอกเหนือจากเงินฝากให้มากขึ้น
"ในปีนี้กสิกรไทยคงไม่มีโครงการเงินฝากพิเศษ เพราะได้ออกไปแล้วในช่วงที่ผ่านมาและประสบความสำเร็จมาก ซึ่งล่าสุดอัตราการเติบโตตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ 5-6% จากพอร์ตเงินฝาก 730,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า ณ สิ้นปีน่าจะเติบโตได้อีกเล็กน้อย
โดยเราจะพยายามรักษาฐานลูกค้ามากกว่าไปแย่งจากแบงก์อื่น" นายอนุรักษ์ ระบุ
นายอนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า ธนาคารทุกแห่งรวมถึงธนาคารกสิกรไทยประสบปัญหาการโยกเงินฝากของลูกค้า หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ธปท.ซึ่งสามารถดูดสภาพคล่องการเงินในระบบธนาคารได้ประมาณ 89,889 ล้านบาท ประกอบกับอัตราการเติบโตในระดับสูงของกองทุนรวม แต่สภาพคล่องการเงินในระบบปัจจุบันยังถือว่าสูงมาก
ด้านนายชาติชาย ศรีรัศมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) กล่าวว่า ธนาคารได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ
แทนการรับฝากเงินอย่างเดียว เนื่องจากมองว่าทิศทางการระดมเงินฝากในปี 2551จะเริ่มหนืดขึ้น และสภาพคล่องการเงินในระบบจะเริ่มตึง เนื่องจากรัฐบาลมีการกู้ยืมเงินในประเทศเพื่อลงทุนวางระบบสาธารณูปโภค
ด้านนายธนชัย ธนชัยอารีย์ รองกรรมผู้จัดการ ธนาคารยูโอบี ระบุว่า ธนาคารเตรีมออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษก่อนสิ้นปีนี้
เพื่อเสริมสภาพคล่องของธนาคาร แม้ปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูงมาก เนื่องจากไม่ถูกโยกเงินฝาก
ทั้งนี้การกำหนดใช้ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก จะมีผลให้ลูกค้าเงินฝากรายใหญ่ของทุกธนาคารกระจายการลงทุนไปยังธนาคารและการลงทุนด้านอื่นๆ โดยธนาคารที่มีฐานะเข้มแข็งถือว่าจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ