นายเดวิด เว็บบ์ ผู้ถือหุ้นและดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอิสระของบริษัท ฮ่องกง เอ็กซ์เชงจ์ แอนด์ เคลียร์ริ่ง จำกัด (HKEx) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลฮ่องกงในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน HKEx นั้น เป็นการส่งสัญญาณด้านลบให้กับตลาด และทำให้เกิดคำถามตามมามากมายเกี่ยวกับความตั้งใจของรัฐบาลในประเด็นเรื่องขอบเขตการควบคุมของรัฐบาลที่มีต่อบริษัทผู้ทำหน้าที่ในการบริหารตลาดหุ้นฮ่องกง
นายเว็บบ์กล่าวผ่านทางเว็บไซต์ว่า ข้อมูลความจริงที่ว่ารัฐบาลฮ่องกงไม่ได้แทรกแซงตลาดหุ้นฮ่องกงมาตั้งแต่ปี 2541 นั้น ทำให้ผู้ถือหุ้นและกลุ่มผู้สังเกตการณ์จำนวนมากสงสัยว่าเพราะเหตุใดรัฐบาลจึงได้ซื้อหุ้นเพิ่มถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงผ่านทางกองทุนแลกเปลี่ยน ซึ่งหากไม่พิจารณาเหตุผลที่แท้จริงของการซื้อหุ้นเพิ่มของรัฐบาล การซื้อหุ้นครั้งนี้จะเป็นการส่งสัญญาณที่เป็นลบมากกับตลาดโดยรวม และยังเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดด้วย
นายเว็บบ์กล่าวว่า "จนถึงขณะนี้รัฐบาลฮ่องกงไม่ได้เข้ามาแทรกแซงตลาดจริงตั้งแต่ปี 2541 แต่รัฐบาลซื้อหุ้น HKEx เพิ่มอีกเท่าไร และรัฐบาลจะแจ้งให้ประชาชนรู้หรือไม่หากรัฐบาลจะซื้อหรือขายหุ้นเพิ่มมากกว่านี้ รัฐบาลจะเต็มใจที่จะสนับสนุนราคาหุ้นต่อไปหรือไม่หากราคาหุ้นร่วง และหุ้นประเภทใดอีกที่รัฐบาลตั้งใจจะซื้อ"
นอกจากนี้ นายเว็บบ์กล่าวว่า การลงทุนในกองทุนเพิ่มขึ้นผ่านทางการซื้อหุ้นในตลาดฮ่องกงนั้น คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.50 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง ก่อนการซื้อหุ้นเพิ่มเติมครั้งล่าสุดใน HKEx ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้เกิดความกังวล 2 ประเด็นคือ รัฐบาลฮ่องกงจะยืนอยู่ในจุดแห่งความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ เนื่องจากบริษัทได้ลงทุนในบริษัทต่างๆ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ทำหน้าที่ประสาน เก็บภาษี และกำกับดูแลบริษัทที่รัฐบาลถือหุ้นอยู่
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--