จีนเบียดแซงญี่ปุ่นขึ้นแท่นเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน

ข่าวต่างประเทศ Sunday September 9, 2007 08:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          จีนก้าวขึ้นแซงหน้าญี่ปุ่นในการเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอิหร่านในปี 2549 เนื่องจากจีนมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นจนทำให้มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นกับประเทศร่ำรวยน้ำมันอย่างอิหร่าน ในขณะที่ญี่ปุ่นได้ระงับการลงทุนในประเทศตะวันออกกลางภายใต้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหประชาชาติที่มีต่อโครงการพัฒนานิวเคลียร์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรอิหร่านที่ระบุว่า ยอดนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างอิหร่านและจีนในปีที่ผ่านมาขยายตัวเพิ่มขึ้น 43% จากปีก่อนหน้านี้ แตะที่ 1.445 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าญี่ปุ่นที่มียอดนำเข้า-ส่งออกกับอิหร่านที่ระดับ 1.230 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีนและอิหร่านที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการที่อิหร่านได้เพิ่มการส่งออกสินค้าประเภทน้ำมันและอุปกรณ์ก่อสร้างไปยังประเทศจีน ขณะที่จีนเองก็ได้สั่งนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์จากจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อิหร่านมียอดส่งออกน้ำมันไปยังญี่ปุ่นลดลง และญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องมือเครื่องชะลอตัวลงเช่นกัน
ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้กำหนดใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเป็นครั้งที่สองมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2549 หลังจากที่อิหร่านเดินหน้าโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่ทำให้ทางสหประชาชาติหวั่นวิตกว่าอาจพัฒนาไปสู่การผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่อิหร่านยืนยันว่าโครงการทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในทางสันติ
อย่างไรก็ตาม ทางสหประชาชาติจะทบทวนว่าควรผลักดันให้มีการลงมติคว่ำบาตรทางการค้าและการเงินกับอิหร่านเป็นครั้งที่สามหรือไม่ ขณะที่จีนเป็นหนึ่งใน 5 ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ออกเสียงคัดค้านการลงมติคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ