นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.17 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เมื่อเช้าที่ระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์ต่อเนื่อง หลังนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อ แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและแผนการกระจายวัคซีนได้ดี ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15 - 31.24 บาท/ ดอลลาร์
"บาทอ่อนค่าตามตลาดโลก ระหว่างวันไปทำนิวไฮที่ระดับ 31.24 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนกังวลที่จะนำไปลงทุนสินทรัพย์อื่น" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.10 - 31.25 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่ามี โอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 31.25 บาท/ดอลลาร์ แต่คงไม่ผ่านเพราะมีผู้ส่งออกรอขายอยู่
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.58 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.68 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1772 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1779 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,583.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด, +0.57% มูลค่าการซื้อขาย 71,308.38 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,740.94 ล้านบาท (SET+MAI)
- คลังเตรียมปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2564 ใหม่ในเดือน เม.ย.นี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
จริง จากคาดการณ์เดิมที่ 2.8% โดยภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งจากการส่งออก การนำเข้าสินค้าทุน และการลงทุน รวมถึงการ
ใช้จ่ายภายในประเทศที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐ ซึ่งเป็นตัวช่วยพยุงการใช้จ่ายภายในประเทศได้เป็นอย่างดี
โดยจะต้องมีการพิจารณาเครื่องชี้เศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประกอบด้วย
- รองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น
อย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกที่ไม่รวมทองคำ นอกจากนี้ความเชื่อมั่นที่สะท้อนจากดัชนีความ
เชื่อมั่นของผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอก
ใหม่ภายในประเทศที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง การฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมาตรการของภาครัฐที่มีส่วนสำคัญในการพยุงกำลังซื้อของผู้
บริโภค
- รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ "ม33เรารักกัน" ว่า ขณะนี้ได้มีการโอนเงินงวดที่ 2 จำนวน 1,000
บาท ผ่านแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" ให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิในโครงการ ม33เรารักกัน แล้ว โดยเหลืออีก 2 งวด คือ งวดที่ 3 จะโอนใน
วันที่ 5 เม.ย.64 และงวดที่ 4 โอนในวันที่ 12 เม.ย.64 ภาพรวมการใช้จ่ายตามนโยบายรัฐบาล โครงการ ม33เรารักกัน ผลปรากฏ
ว่า วันที่ 22 - 28 มี.ค. 64 มียอดใช้จ่ายสะสม จำนวน 4,603,989,005.52 บาท
- ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 6
วัน (วันที่ 10-15 เมษายน 2564) จะคึกคักมากกว่าช่วงวันหยุดตรุษจีน และวันมาฆบูชาที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่คนไทยเดินทางกลับ
ไปยังภูมิลำเนา เพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์ เยี่ยมญาติ และถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ประกอบกับแรงหนุนจากมาตรการ
ต่างๆ ของภาครัฐ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ จะส่งผลให้มีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 3.2 ล้านคน/ครั้ง และ
สร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาส
1/64 เท่ากับ 36 สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติมากที่สุด และแย่กว่าไตรมาสที่ผ่านมาในระดับมาก
- ประธานกรรมการหอการค้าไทยคนใหม่ เปิดเผยนโยบายของคณะกรรมการหอการค้าไทยชุดใหม่ ที่เน้นเรื่อง "Connect
the Dots" โดยชูหอการค้าให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อมุ่งยกระดับเศรษฐกิจไทยให้
เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมมองว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาอีกมากรออยู่ ดังนั้น จึงตั้งเป้าหมายการฟื้นฟู
เศรษฐกิจภายใน 99 วันแรก เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่น แก้ปัญหาระยะสั้น ทั้งการจ้างงานและปัญหาผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ขณะ
เดียวกันก็ปูรากฐานไปสู่การฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในเดือนเม.ย. โดยจะเร่งเตรียมการ
สำหรับการออกเงินเสมือน (virtual currency) ของญี่ปุ่นเอง หลังจากที่จีนและบางประเทศได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้วอย่าง
รวดเร็ว
- ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) เผยสหรัฐยังไม่พร้อมที่จะยกเลิกมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในเร็วๆ นี้ แต่อาจ
จะเปิดโอกาสที่จะเจรจากับจีน
- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐได้เทขายหุ้นมูลค่า 1.05 หมื่นล้าน
ดอลลาร์ในการซื้อขายแบบ Block Trade เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นการเทขายหุ้นล็อตใหญ่ที่มีมูลค่าสูงอย่างที่ไม่เคย
เกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งเป็นการเทขายหุ้นจำนวนหลายตัวตั้งแต่หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน ไปจนถึงหุ้นกลุ่มสื่อของสหรัฐ
- นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจะเปิดเผยแผนการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงก
ว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ในวันพุธนี้