ส.อ.ท.คาดปี 50 ภาคอุตฯขยายตัวไม่ถึงเป้า 6% จากภายในปท.ชะลอตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 21, 2007 13:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)คาดปี 50 การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมไม่ถึง 6% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดขยายตัว 6.5% เนื่องจากปัจจัยส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาภายในประเทศ ที่มาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอ ปัจจัยการเมือง ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ภาคเอกชนไม่กล้าเสี่ยงที่จะขยายการลงทุนเพิ่ม
แต่ในช่วงไตรมาส 4 เชื่อมั่นว่าภาคส่งออกยังมีการขยายตัว แม้ว่าจะมีปัญหาซับไพร์มในสหรัฐ โดยที่ผ่านมาผู้ส่งออกได้ปรับตัวขยายการส่งออกกระจายไปหลายประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ก็พยายามเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับภาคอุตสาหกรรม จึงเชื่อมั่นว่า การส่งออกปีนี้น่าจะเติบโตได้ 12.5% ตามเป้าหมาย
ส่วนปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมัน มองว่าการปรับเพิ่มขึ้นราคาช่วงนี้เป็นเพียงระยะสั้นจากการเก็งกำไร โดยอาศัยปัจจัยเรื่องพายุเฮอริเคนที่ทำให้เกิดการกักตุนน้ำมัน แต่เชื่อระยะยาวราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวลดลง และไม่คิดว่าราคาน้ำมันโลกจะทะลุถึง 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลไปได้
สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน ได้แก่ ภาคการขนส่ง ผู้ที่ใช้วัตถุดิบจากปิโตรเคมี และก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน
ด้านปัจจัยค่าเงินบาท ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 34.50-34.60 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าเป็นระดับที่ภาคอุตสาหกรรมพอใจ และต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปกว่า 34 บาท/ดอลลาร์ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงไตรมาส 4
"อยากให้ภาครัฐเร่งผลักดันโปรเจ็คท์ต่างๆเกี่ยวกับการลงทุนที่คั่งค้างอยู่ก่อนหมดวาระ โดยเฉพาะโปรเจ็คท์เกี่ยวกับปิโตรเคมี ที่อยู่ระหว่างรอให้ผ่าน EIA (ผลศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม)"นายสันติ กล่าว
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ยืนยันปี 50 ยอดการผลิตรถยนต์จะอยู่ที่ 1.24 ล้านคันได้ตามที่วางเป้าหมาย เนื่องจากยอดการผลิตรถยนต์ในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.50 หรือในช่วง 8 เดือนแรก มีจำนวน 8.16 แสนคัน เพิ่มขึ้น 2.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงทำให้เชื่อว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้น่าจะทำได้ตามเป้าหมาย
ในไตรมาส 4 มองว่าตลาดรถยนต์จะปรับดีขึ้น เนื่องจากตลาดส่งออกมากในช่วงปลายปี และหวังว่า เดือน ธ.ค.จะมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่ราคาน้ำม้นที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลต่อยอดผลิตบ้าง
สำหรับการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน(อีโคคาร์)จะส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างรอให้แต่ละผู้ผลิตยื่นขอส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ก่อนจึงจะทราบว่ารายใดทำอีโคคาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ