นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลยังไม่มีแนวคิดในการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 มีมติให้คงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 7% สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีที่เข้าลักษณะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับรายการที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2564 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ซึ่งอัตราส่วน 1 ใน 9 ของภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น จะถูกโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมาย
นายอนุชา กล่าวว่า ในแต่ละประเทศมีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่แตกต่างกันไป อาทิ อินโดนีเซีย เวียดนาม และญี่ปุ่นจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่อัตรา 10% สิงคโปร์จัดเก็บที่ 7% มาเลเซียจัดเก็บที่ 6% ซึ่งไทยมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจ ไม่เป็นภาระแก่ประชาชนเกินจำเป็น และช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้กำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 10% ตามประมวลรัษฎากร ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงจากระบบภาษีการค้ามาเป็นระบบภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อปี 2535 แต่ได้มีการบรรเทาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะออกพระราชกฤษฎีกาลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% เป็นระยะๆ จะมีก็แต่เพียงในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เท่านั้น ที่มีการขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10%