ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมี.ค.64 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.1 จากในเดือนก.พ. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 45.6 โดยดัชนีฯ ปรับสูงขึ้นมากกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ค.62 ตามการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านคำสั่งซื้อ และการผลิต
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับดีขึ้นในเกือบทุกธุรกิจ ยกเว้นกลุ่มผลิตเหล็กที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อปรับลดลงมาก อีกทั้งความเชื่อมั่นด้านต้นทุนลดลงต่อเนื่องมาอยู่ในระดับต่ำ คาดว่าเป็นผลจากราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้น สำหรับภาคที่มิใช่การผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจส่วนใหญ่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนว่าภาวะธุรกิจยังคงแย่ลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่ยังอยู่ในระดับต่ำมาก
อย่างไรก็ดี หากเทียบระดับของดัชนีฯ กับเดือนก่อน พบว่าที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นกลุ่มโลจิสติกส์ ค้าปลีก รวมถึงโรงแรม และร้านอาหาร ส่วนหนึ่งเป็นผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ เช่น โครงการเราชนะ และเรารักกัน เป็นต้น
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯ ใน 3 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 54.1 ตามดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้นของเกือบทุกธุรกิจในภาคการผลิต ยกเว้นการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลง ตามความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศ ที่ปรับลดลงมากจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด ซึ่งทำให้บางประเทศกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง
สำหรับภาคที่มิใช่การผลิต ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นมาอยู่สูงกว่าระดับ 50 ได้เป็นครั้งแรก หลังเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ จากความเชื่อมั่นของธุรกิจส่วนใหญ่ที่ปรับดีขึ้น ยกเว้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ดัชนีฯ ปรับลดลงและอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่อง สะท้อนถึงความกังวลของผู้ประกอบการว่าธุรกิจจะยังไม่ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับปัจจุบัน