(เพิ่มเติม) FED ประกาศลดดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น 0.50% มุ่งผ่อนคลายวิกฤติสินเชื่อ

          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.75% โดยเฟดมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะผันผวนในตลาดสินเชื่อ และยับยั้งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
          นอกจากนี้ เฟดยังประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงอีก 0.50% สู่ระดับ 5.25% หลังจากเฟดได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทดังกล่าวไปแล้ว 0.50% สู่ระดับ 5.75% เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
          นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะดำเนินการตามเฟดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดีซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.25% มาเป็นเวลา 15 เดือนแล้ว                  
          ก่อนที่เฟดจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เฟดได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงินแล้วกว่า 1.40 แสนล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.เป็นต้นมา เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบและเพื่อช่วยคลี่คลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ
          ทั้งนี้ เฟดได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "การที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น 0.50% ครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งผลกระทบดังกล่าวเป็นผลมาจากภาวะผันผวนในตลาดการเงิน และมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นในระดับปานกลาง"
          "ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวขึ้นในระดับปานกลาง แต่ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อได้ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงและสกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยทั่วไป อีกทั้งยังส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในภาวะไม่แน่นอนด้วยเช่นกัน" เฟดกล่าวในแถลงการณ์
          "เฟดจะยังคงประเมินผลกระทบเหล่านี้ และจะ''ใช้มาตรการที่จำเป็น' เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาและพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน  อย่างไรก็ตาม เฟดเล็งเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ปรับตัวขึ้นในระดับปานกลางในปีนี้ และเฟดเห็นว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ซึ่งเฟดจะติดตามเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง"
          นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพื่อให้เศรษฐกิจและตลาดการเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2551 สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน