นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจหลังมีแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างชัดเจนจะช่วยผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาตามเป้าที่วางไว้ 6.5 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท พร้อมกับช่วยดันจีดีพีให้โตได้ถึง 4% ได้
ทั้งนี้ ตามโรดแมพของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว โดยเริ่มใน 6 จังหวัด 6 พื้นที่ท่องเที่ยว คือ ในไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย. 64) เปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย ชลบุรี (พัทยา) และเชียงใหม่ โดยต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 1 แสนคน
ในไตรมาสที่ 3 (ก.ค.-ก.ย.64) จะดำเนินการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยไม่มีการกักตัว หรือ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องได้รับวัคซีนครบโดส และต้องอยู่ในภูเก็ตอย่างน้อย 7 วัน ก่อนออกเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้ และประชาชนในพื้นที่ต้องได้รับวัคซีนถึง 70% ของประชากรทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข รับปากว่าจะจัดหาวัคซีนให้ และหากกระทรวงสาธารณสุขสามารถสั่งจองวัคซีนได้เพิ่มเติม ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯ มีแนวคิดจะขยายไปยังพัทยา และ 5 เทศบาลล้อมรอบ ซึ่งพัทยาต้องใช้วัคซีนประมาณ 9.6 แสนโดส จึงจะกล้าเปิดเป็นพัทยาแซนด์บ็อกซ์ได้
ทั้งนี้ คาดว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 จะมีวัคซีนเข้ามาถึง 30 ล้านโดส กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้มีการฉีดวัคซีนเต็มพื้นที่ในอีก 5 จังหวัดนำร่อง เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวได้เต็มทุกพื้นที่
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หากเป็นไปได้อยากให้มีการฉีดวัคซีนให้กับคนกรุงเทพมหานครในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.64 ให้ได้ 20 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 10 ล้านคน เพราะจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร ซึ่งหากทำได้จะมีส่วนช่วยทำให้ได้นักท่องเที่ยวถึง 6.5 ล้านคนตามที่วางเป้าไว้ได้
ทั้งนี้ หากการท่องเที่ยวสามารถทำได้ตามเป้าจะส่งผลไปถึงการวางแผนการท่องเที่ยวในปี 65 ด้วย ซึ่งทางกระทรวงฯ พยายามทำให้เกิดรายได้ 2.5 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยว 20-21 ล้านคน
สำหรับการท่องเที่ยวหลังจากโควิด-19 การท่องเที่ยวจะเปลี่ยนแปลงไป คนมาเที่ยวจะใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งประมาณการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาเที่ยวไทยได้เท่ากับปี 62 หรือก่อนเกิดโควิด-19 คงต้องภายในปี 67
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงการผลักดันการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทาง ททท.ได้มีการหารือกับผู้ประกอบการในพื้นที่ในการเตรียมตัวเปิดรับนักท่องเที่ยว ที่เน้นการท่องเที่ยว BCG Model และต้องเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เช่น กลุ่มผู้สูงวัยให้เข้ามาพักอาศัยนานขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ เน้นกลุ่มคุณภาพมากขึ้น เพื่อเอาโอกาสด้านการท่องเที่ยวมาช่วยฟื้นฟูประเทศด้วย