นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) เผยผลสำรวจพฤติกรรมการบริโภคสินค้าชุมชน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนสินค้าชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก โดยผลสำรวจพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสนใจและอุดหนุนสินค้าชุมชน ซึ่งจะช่วยให้สินค้าชุมชนสามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
ในการสร้างความเข้มแข็งให้สินค้าชุมชนนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้กลไกขับเคลื่อนผ่านนโยบายและโครงการหลายด้าน อาทิ โครงการ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับประเทศและมุ่งไปสู่ตลาดระดับโลก เร่งรัดการส่งออกสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และ OTOP/สินค้าชุมชน นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการจดทะเบียนสินค้า GI สนับสนุนกลุ่ม OTOP/สินค้าชุมชนให้เข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ฟื้นฟูธุรกิจโชห่วยในชุมชน และการพัฒนาชุมชนควบคู่ธุรกิจผ่านวิสาหกิจเพื่อสังคม อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากในภูมิภาคต่างๆ มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ผอ.สนค. ยังกล่าวถึงการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคสินค้าชุมชนในเดือนก.พ.64 โดยได้สำรวจจากประชาชนจำนวน 8,031 คนทั่วประเทศ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 72.51% เคยซื้อสินค้าชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อมาเพื่อใช้หรือบริโภคเอง ชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศรู้จักสินค้าชุมชนเป็นอย่างดี และสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ประเภทสินค้าที่ซื้อ ผลการสำรวจพบว่า ของกินได้รับความนิยมมากที่สุด 63.11% รองลงมา ของใช้ 28.42% และของที่ระลึก/ประดับตกแต่ง 8.48% โดยเหตุผลหลักที่ทำให้ซื้อสินค้าชุมชน ได้แก่ ราคาย่อมเยา ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ถือเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชน และสินค้ามีคุณภาพ (อาทิ สินค้าออแกนิกส์ ปลอดภัย และรสชาติดี) ขณะที่สินค้าประเภทของที่ระลึก/ประดับตกแต่ง นอกจากเหตุผลข้างต้นแล้ว ประชาชนให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าสินค้ามีความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะท้องที่ และมีบรรจุภัณฑ์สวยงาม
- ความถี่และวงเงินที่ซื้อ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ซื้อสินค้าชุมชนไม่เกิน 10 ครั้งต่อปี ส่วนใหญ่ซื้อครั้งละไม่เกิน 500 บาท (82.41%) โดยข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ/พนักงานรัฐ นักธุรกิจ/เจ้าของกิจการ และพนักงานบริษัท มีแนวโน้มใช้จ่ายมากกว่าอาชีพอื่น เป็นที่น่าสนใจว่า มูลค่าการซื้อสินค้าชุมชนในสถานการณ์ปกติ มีมูลค่าถึงประมาณ 3.4 แสนล้านบาท/ปี หรือคิดเป็น 2.17% ของ GDP
- ช่องทางการซื้อสินค้า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ซื้อจากร้านค้าชุมชน/โชว์ห่วย/ศูนย์ OTOP มากที่สุดถึง 52.08% ร้านสะดวกซื้อ 18.77% และงานแสดงสินค้า 15.19 %ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโอกาสการซื้อสินค้าชุมชนมักควบคู่ไปกับการเดินทางท่องเที่ยวในชุมชนนั้นเป็นหลัก ดังนั้น หากเราสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี
- ความพึงพอใจโดยรวมของสินค้าชุมชน ผู้ตอบแบบสอบถาม 45.01% พึงพอใจต่อสินค้าชุมชน สำหรับผู้ที่ยังไม่พอใจ มีความคิดเห็นว่า สินค้าชุมชนต้องมีการพัฒนาการตลาดที่น่าสนใจ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และตรงกับกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาคุณภาพสินค้า อาทิ ความสะอาด รสชาติ รูปแบบสินค้า ประโยชน์การใช้งาน ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย และมีการขอมาตรฐานต่าง ๆ อาทิ มอก. ฮาลาล สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นต้น เพื่อให้สินค้ามีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถแข่งขันกับสินค้าอุตสาหกรรมและส่งออกได้
"กระทรวงพาณิชย์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าชุมชนในทุกภูมิภาค อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ และจะดำเนินการต่อไป โดยเน้นการสร้างประสิทธิภาพ การขยายโอกาสทางการตลาด การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตและบริการอื่น ๆ เพื่อให้สินค้าชุมชนมีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง" ผอ.สนค.กล่าว