ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 เม.ย.) ที่ 31.20-31.65 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด 19 ในประเทศ ท่าทีสหรัฐฯ และจีน
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคานำเข้า/ส่งออก ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนมี.ค. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Prelim.) เดือนเม.ย. รวมถึงรายงาน Beige Book ของเฟด
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/64 ยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวน การส่งออกและยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน
สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือน โดยเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับอานิสงส์จากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ซึ่งหนุนความหวังต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
นอกจากนี้เงินบาทยังเผชิญแรงขายต่อเนื่อง และแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนที่ 31.51 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบสามของโควิด 19 ในประเทศ ซึ่งมีการแพร่กระจายออกไปในหลายจังหวัดอย่างรวดเร็ว